พระธรรมโฆษาจารย์กุมารชีพ 鳩摩羅什

鸠 摩 罗 什 大 师 画 传

แปลและเรียบเรียงโดยวรรณพร เรืองรองปัญญา

 

 

  一千五百年前,在中国北方的割据政权中,先后有两个国君为了一位西域高僧而发动战争。最后,这位高僧被秦国君姚兴恭迎至长安。他,就是享誉西域和中土的佛教学者、著名的佛经翻译家鸠摩罗什(梵文kumarajiva,公元344--413)

กว่า หนึ่งพันห้าร้อยปีล่วงมาแล้ว ณ เขตแบ่งแยกอำนาจการปกครองทางเหนือของประเทศจีน มีกษัตริย์ 2 พระองค์ได้ทำศึกสงครามกันเพื่อช่วงชิงพระสงฆ์รูปหนึ่ง(จากประจิมประเทศ) ซึ่งมีสติปัญญาเฉียบแหลม ในที่สุดพระสงฆ์รูปนี้ได้ถูกนิมนต์ไปนครฉางอานโดยกษัตริย์เอี๋ยวซิงแห่ง ราชวงศ์ฉิน พระสงฆ์รูปนี้คือ กุมารชีพ ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนาและนักแปลคัมภีร์มีชื่อ ซึ่งได้รับการยกย่องทั้งจากประจิมประเทศและประเทศจีน พระสงฆ์รูปนั้นคือ กุมารชีวะ ปี พ.ศ.334-413

   鸠摩罗什的父亲鸠摩罗炎是相门之子,他家世代为相,系天竺过婆罗门族人。然而。出身于相门的鸠摩罗炎却对政治不感兴趣,立志出家修行,为此。罗炎的父亲 决定提早把相位传给自己的儿子。罗炎知道这一决定后,在一个寂静的夜晚离家出走,到寺里受了具足戒,成为一名庄严的比丘。

กุมารชีพ เป็นบุตรชายของกุมารายนะ ตระกูลของกุมารายนะเป็นอัครมหาเสนาบดีมาหลายชั่วคน ท่านกำเนิดในวรรณะพราหมณ์อันสูงศักดิ์แห่งชมพูทวีป แต่กลับไม่สนใจทางด้านการเมือง ตั้งใจปฏิญาณจะออกบวชบำเพ็ญธรรม ด้วยเหตุนี้บิดาของกุมารายนะจึงรีบตัดสินใจจะยกตำแหน่งอัครเมสาบดีให้แก่ บุตรชายเมื่อกุมารายนะทราบเรื่องการตัดสินใจของบิดา ดังนั้นในคืนอันสงบเงียบกุมารายนะ จึงได้หนีจากบ้านไปที่วัดแห่งหนึ่งเพื่ออุปสมบท เป็นพระภิกษุที่เคร่งในธรรมวินัย

  罗炎出家后,唯恐父亲仍要逼他继承相位,便千里迢迢,远走佛教盛行的龟兹。一路上,他翻山越岭,跨过湍急的河流,穿越塔克拉玛干沙漠,走过野兽出没的森林。白天摘野果充饥,夜里在山洞过夜。他忘却了困难,感到像逃出笼子的鸟儿那样舒畅愉快。

   ถึงแม้กุมารายนะได้ออกบวชแล้ว ก้ยังวิตกว่าบิดาจะบังคับให้กลับไปสืบทอดตำแหน่งจึงได้ตัดสินใจออกจาริกไป ยังแคว้นกุฉา ซึ่งเป็นเมืองที่นับถือพุทธศาสนาอย่างแพร่หลายระหว่างทางท่านได้ฝ่าฟัน อุปสรรคนานัปการ ปีนภูเขาอันสุงชัน ข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ฝ่านทะเลทรายตากลามากัน และป่าดงพงไพรที่มีสัตว์ร้ายชุกชุม กลางวันประทังความหิวด้วยผลไม้ป่า ค่ำคืนนอนพักรมตามถ้ำ แต่ท่านก็ไม่รู้สึกถึงความยากลำบากทั้งมวลที่ได้รับ กลับรู้สึกเหมือนนกน้อยที่หลุดพ้นจากรง มีทั้งความสุขและอิสระ

        

  龟兹国位于中国西北,既现在的新疆塔里木盆地的北侧的库车县一带。年轻的龟兹国王白纯听说罗炎舍弃荣华富贵出家,十分仰慕,亲自出城,把形容憔悴而气质高贵优雅的罗炎迎进王宫。

แคว้น กุฉา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ปัจจุบันคืออำเภอคู่เชอ ซึ่งอยู่ด้านเหนือของถ้ำหลี่มู่เผิน แห่งมณฑลซินเจียง กษัตริย์ของแคว้นกุฉาซึ่งมีพระชนม์มายุเยาว์วัยพระนามว่า ไป่ฉุน ทรงทราบข่าวเกี่ยวกับการสละยศถาบรรดาศักดิ์เพื่อออกบวชของกุมารายนะ ทรงมีศรัทธาปสาทะในตัวกุมารายนะมาก จึงได้เสด็จออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง และนิมนต์กุมารายนะซึ่งมีสีหน้าอิดโรยจากการเดินทาง แต่ก็ยังคงบุคลิกที่สง่างาม ให้เข้าไปในวังด้วยกัน

  罗炎在王宫受到了热情的款待,到了第三天,国王便宣布请罗炎担任国师的决定。罗炎无法推托,只得留在宫中。再说国王的妹妹公主耆婆已年届二十,生得聪明美丽,才智出众,慕名求婚者很多,却没有一位能让她看中的。她每天除了在花园里散步,便是在闺房安安静静的看书读经。  

            กุมารายนะได้รับการรับรองอย่างอบอุ่นจากกษัตริย์ไป่ฉุน หลังจากนั้น 3 วัน กษัตริย์ไป่ฉุนทรงตัดสินพระทัยประกาศแต่งตั้งให้กุมารายนะรับตำแหน่งเป็นพระ ราชครู กุมารายนะไม่สามารถอ้างเหตุผลปฏิเสธได้จึงต้องพำนักอยู่ในวัง กล่าวถึงพระขนิษฐาของกษัตริย์ไป่ฉุน พระนามว่าองค์หญิงฉีผอ ทรงมีพระชนมายุ 20 พรรษา พระสิริโฉมงดงามสติปัญญาหลักแหลมเหนือผู้ใด มีผู้ใฝ่ผันจะสู่ขอมากมาย แต่ไม่มีใครสักคนที่องค์หญิงฉีผอถูกตาต้องใจเลย ทุกๆวันองค์หญิงฉีผอ นอกจากเดินเล่นอยู่ในอุทยานแล้วก็ใช้เวลาอยู่ในห้องส่วนพระองค์อ่านหนังสือ ศึกษาธรรมะ

 

  从天竺国来了贵宾的事,耆婆也有所闻,这天,她从闺房出来,在宫中碰见王兄正陪着一位陌生的男子走来。她刚想回避,被国王叫住了。国王为公主和罗炎做了介绍,罗炎恭敬的合掌致礼,公主看到这位温文尔雅的比丘,禁不住怦然心动,害羞地跑开去。องค์ หญิงฉีผอ พอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับแขกผู้ทรงเกียรติที่มาเยือนจากชมพูทวีป วันหนึ่งขณะที่เสด็จออกจากห้องประทับ ก็เผชิญกับพระเชษฐาซึ่งเสด็จเคียงข้างมากับชายแปลหน้าผู้หนึ่ง ขณะที่คิดจะเดินเลี่ยง พระเชษฐาก็สั่งให้หยุดและแนะนำให้รู้จักกับกุมารายนะ กุมารายนะพนมมือแสดงความเคารพ เมื่อองค์หญิงได้ทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุผู้มีบุคลิกงามสง่าสำรวม พระหทัยก็รู้สึกหวั่นไหวทันทีและรีบเดินจากไปอย่างเอียงอาย

  国王把这一切都看在眼里。他正想让罗炎长久留在龟兹国,便准备亲自撮合这门亲事。过了几天,他让人把罗炎和公主都请来一手拉着一个,兴致勃勃的说:“你们真是天造地设的一对呀!”罗炎一时不知所措。尽管他深知国王的旨意是不能违抗的,但还是试图推托。

กษัตริย์ ไปฉุนทรงทอดพระเนตรเห็นและเข้าพระทัยทุกอย่าง พระองค์เองก็มีพระประสงค์จะให้กุมารายนะพำนักอยู่แคว้นกุฉาตลอดไป ดังนั้นจึงทรงวางแผนเตรียมการสู่ขอและจัดพิธีสยุมพรให้ด้วยพระองค์เอง หลายวันต่อมากษัตริย์ไป่ฉุนจึงรับสั่งให้พระขนิษฐาและกุมารายนะเข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองมาถึงพระองค์ทรงกุมมือคนทั้งสองไว รับสั่งด้วยความพอพระทัยว่า “ท่านทั้งสองเสมือนคู่ที่ฟ้าดินสรรค์สร้างมาจริงๆ” ทันใดนั้น กุมารายนะรู้ตัวดีแต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร แม้จะเข้าใจดีว่าพระบัญชานั้นไม่อาจขัดขืนได้ แต่ก็ลองพยายามบ่ายเบี่ยง

  罗炎向国王陈述自己的意见,可是不等他说完,国王的不高兴地说:“出家后难道不可以还俗吗?娶了妻子就不能再读经吗?”在国王的坚持下,罗炎只好答应这门婚事。他先依照佛教律仪,在当地高僧的见证下,舍戒还俗,脱下僧衣,穿上华丽的贵族服装。

กุ มารายนะพยายามอธิบายความคิดเห็นของตน แต่กษัตริย์ไป่ฉุนไม่รอให้กุมารายนะพูดจบ พระองค์ทรงกริ้วและรับสั่งว่า “ออกบวชแล้วก็ลาสิกขาบทได้มิใช่หรือ แต่งงานแล้วไม่สามารถศึกษาธรรมต่อไปได้หรือไร” ภายใต้การยืนกรานของกษัตริย์ไป่ฉุน กุมารายนะจำต้องตอบรับเรื่องพิธีสยุมพรและปฏิบัติตามพุทธพิธี ภายใต้การรู้เห็นเป็นพยานของพระเถระผู้ใหญ่ ละการถือศีลนุ่งจีวรและเปลี่ยนมาสวมใส่อาภรณ์อันสวยงามของผู้สูงศักดิ์

  婚礼隆重的举行。国王和王后亲自把盏,祝福新人福慧双修,恩爱长久。大臣们举杯祝贺,脸上充满了笑容。公主美丽的容貌,含情的双眸,聪慧的谈吐和贤静的举止,使罗炎在现实面前不得不改变初衷。

      พิธีสยุมพรจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ กษัตริย์และพระราชินีทรงเลี้ยงรับรองแขกและข้าราชบริพารด้วยพระองค์เอง ทรงอวยพรให้คู่ข่าวสาวมีความสุขรักกันชั่วนิรันดรืให้ทะนุถนอมและศึกษา บำเพ็ญธรรมพร้อมๆกันไป ข้าราชบริพารก็พร้อมใจถวายพระพรด้วยรอยยิ้มกันถ้วนหน้า ความงดงามแช่มช้อยและสายดาสดใสหวานซึ้งขององค์หญิงประกอบกับการสนทนาที่ เฉลียวฉลาด กิริยาท่าทางสงบเสงี่ยม ทำให้กุมารายนะยอมจำนนต่อความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า และเปลี่ยนแปลงความตั้งใจโดยสิ้นเชิง

   婚后不久,公主便怀孕了,罗炎看到公主腹部有一个美丽的红色圆形胎记,非常高兴,因为这是日后必生大智慧之子的征兆。公主怀孕后变得更加聪明。有一天, 他突然用流利的天竺语与罗炎谈起话来,这使她自己和罗炎都十分惊讶。从此,他们夫妻经常在一起讨论佛经,使公主对佛教教义有了深刻的了解,这天,宫女在与 公主谈北面山上的雀梨大寺和寺内的高僧。

  หลังพิธีสยุมพรไม่นาน องค์หญิงก็ทรงพระครรภ์ กุมารายนะเห็นพระครรภ์มีสัณฐานกลมแดงงดงาม มีความปิติยินดีขึ้นมาว่าทารกในครรภ์ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมล้นด้วย ปัญญามาถือกำเนิดแน่ หลังจากทรงพระครรภ์ องค์หญิงก็มีความเฉลียวฉลาดยิ่งขึ้น อยู่มาวันหนึ่งนางใช้ภาษาภารตะสนทนากันพระสวามีอย่างคล่องแคล่ว เหตุการณ์เช่นนี้ยิ่งทำให้สองสามีภรรยารู้สึกตื่นเต้นอัศจรรย์ใจ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองท่านก็ได้แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมซึ่งกันและกัน ทำให้องค์หญิงเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพุทธธรรมมากขึ้น วันหนึ่งนางกำนัลกำลังสนทนากับองค์หญิงถึงพระเถระผู้ใหญ่ในวัดเชวี่ยหลี่ ซึ่งตั้งอยู่ขนเขาทางทิศเหนือของแคว้นกุฉา

  公主早就想去寺庙礼佛,于是就征得丈夫同意,邀请了几位王族妇女和大臣的夫人们,准备了几车物品,又请了几位德行高尚的比丘尼,坐上马车,在一个阳光明媚的日子里,向雀梨寺出发。僧人们按礼节接待了她们,安排她们在寺庙右边的女宾馆挂单。

  

            องค์หญิงฉีผอมีพระประสงค์จะไปสักการบูชาพระอยู่แล้ว เมื่อได้รับการเห็นชอบจากพระสวามี ก็ทรงชักชวนภริยาข้าราชการผู้ใหญ่อีกหลายท่านจัดเตรียมข้าวของหลายคันรถ พร้อมทั้งนิมนต์ภิกษุณีที่มีวัตรปฏิบัติดตามและจิตใจบริสุทธิ์หลายรูป ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าสู่วัดเชวี่ยหลี่ท่ามกลางแสงแดดสดใส  องค์หญิงได้รับการต้อนรับตามธรรมเนียมจากวัดและจัดให้พำนักอยู่ห้องรับรอง อุบาสิกาที่อยู่ทางขวาของวัด

 

  公主和同去的妇女们天天在寺内礼佛听法。有的妇女理解不了经义,公主就为她们讲解。一天,一位从天竺来的高僧用天竺语讲经,公主听的入了神。高僧讲毕。公主用流利的天竺语提问,这使大家都非常惊讶。

ทุกๆ วันองค์หญิงพร้อมผู้ติดตามจะไปสักการบูชาพระ และฟังเทศน์ศึกษาธรรม มีสตรีบางท่านไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคัมภีร์ องค์หญิงก็ทรงอธิบายให้ฟัง วันหนึ่งมีพระเถระผู้ใหญ่จากชมพูทวีปใช้ภาษาภารตะแสดงธรรม องค์หญิงทรงฟังอย่างเพลิดเพลินสนพระทัย เมื่อพระเถระเทศน์จบพระนางได้ใช้ภาษาภารตะหยิบยกปัญหาขึ้นถามอย่างคล่อง แคล่ว ทำให้ทุกคนที่ไปด้วยมีความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

   寺里的一位叫达摩瞿沙的法师对大家说:“这一定是怀有大智慧之子的缘故。”他见大家不理解,又接着说:“舍利弗是佛陀座下智慧第一的大弟子,据说她母亲 怀孕时,变得智慧过人,连婆罗门中最负盛名的雄辩家梵志都辩不过他。舍利弗降生以后,他母亲又恢复到从前的样子了。”大家听了这番话,都为公主感到高兴。

ใน วัดแห่งนี้มีธรรมมาจารย์ท่านหนึ่งนามว่า “ธรรมโฆษะ” ได้อธิบายกับทุกคนว่า “เหตุที่องค์หญิงมีความสามารถพิเศษนี้ ในครรภ์ของพระนางคงมีทารกที่มีปัญญาหลักแหลมยิ่งใหญ่เป็นแน่” ท่านเห็นทุกคนยังไม่เข้าใจจึงอธิบายต่อว่า “พระสารีบุตรเป็นอัครสาวกที่มีปัญญาเป็นเลิศขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่ากันว่าขณะที่มารดาของพระสารีบุตรตั้งครรภ์ มารดาของท่าได้กลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเหนือผู้อื่น แม้กระทั่งพราหมณ์นักโต้วาทะอันลือชื่อแห่งตระกูลพราหมณ์ก็ยังโต้สู้ไม่ได้ แต่หลังจากที่พระสารีบุตรถือกำเนิดแล้ว มารดาก็กลับกลายเป็นคนธรรมดาเช่นเดิม” เมื่อทุกคนได้ทราบความจริงแล้วต่างก็แสดงความยินดีกับองค์หญิง

  从雀梨寺回宫后,出家的念头在公主的心里一点点滋长着。经过十月怀胎,孩子出生了,是一个健康的男婴。罗炎惊喜万分,给儿子取名鸠摩罗什,他感到很幸福,经常同妻子坐在摇篮边,看着自己的儿子。这孩子耳大面阔,鼻子高挺,相貌不凡。

มื่อ กลับจากวัดเชวี่ยหลี จิตที่มุ่งมั่นจะออกบวชค่อยๆทวีขึ้นทีละน้อย เมื่อครบกำหนดสิบเดือนของการตั้งครรภ์ ก็ได้ให้กำเนิดทารกเพศชายที่มีพลานามันสมบูรณ์แข็งแรง กุมารายนะตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่งตั้งชื่อให้พระโอรสว่า “กุมารชีพ” ท่านรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขมาก และมักจะนั้นอยู่ข้างอู่กับพระชายามองดูพระโอรสอย่างภูมิใจ พระโอรสทรงมีรูปหน้ากว้างใหญ่ หูยาว จมูกโด่ง หน้างามอย่างพิเศษทีเดียว

 

พระธรรมโฆษาจารย์กุมารชีพ 鳩摩羅什

鸠 摩 罗 什 大 师 画 传

แปลและเรียบเรียงโดยวรรณพร เรืองรองปัญญา

 

 

  一千五百年前,在中国北方的割据政权中,先后有两个国君为了一位西域高僧而发动战争。最后,这位高僧被秦国君姚兴恭迎至长安。他,就是享誉西域和中土的佛教学者、著名的佛经翻译家鸠摩罗什(梵文kumarajiva,公元344--413)

กว่า หนึ่งพันห้าร้อยปีล่วงมาแล้ว ณ เขตแบ่งแยกอำนาจการปกครองทางเหนือของประเทศจีน มีกษัตริย์ 2 พระองค์ได้ทำศึกสงครามกันเพื่อช่วงชิงพระสงฆ์รูปหนึ่ง(จากประจิมประเทศ) ซึ่งมีสติปัญญาเฉียบแหลม ในที่สุดพระสงฆ์รูปนี้ได้ถูกนิมนต์ไปนครฉางอานโดยกษัตริย์เอี๋ยวซิงแห่ง ราชวงศ์ฉิน พระสงฆ์รูปนี้คือ กุมารชีพ ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนาและนักแปลคัมภีร์มีชื่อ ซึ่งได้รับการยกย่องทั้งจากประจิมประเทศและประเทศจีน พระสงฆ์รูปนั้นคือ กุมารชีวะ ปี พ.ศ.334-413

   鸠摩罗什的父亲鸠摩罗炎是相门之子,他家世代为相,系天竺过婆罗门族人。然而。出身于相门的鸠摩罗炎却对政治不感兴趣,立志出家修行,为此。罗炎的父亲 决定提早把相位传给自己的儿子。罗炎知道这一决定后,在一个寂静的夜晚离家出走,到寺里受了具足戒,成为一名庄严的比丘。

กุมารชีพ เป็นบุตรชายของกุมารายนะ ตระกูลของกุมารายนะเป็นอัครมหาเสนาบดีมาหลายชั่วคน ท่านกำเนิดในวรรณะพราหมณ์อันสูงศักดิ์แห่งชมพูทวีป แต่กลับไม่สนใจทางด้านการเมือง ตั้งใจปฏิญาณจะออกบวชบำเพ็ญธรรม ด้วยเหตุนี้บิดาของกุมารายนะจึงรีบตัดสินใจจะยกตำแหน่งอัครเมสาบดีให้แก่ บุตรชายเมื่อกุมารายนะทราบเรื่องการตัดสินใจของบิดา ดังนั้นในคืนอันสงบเงียบกุมารายนะ จึงได้หนีจากบ้านไปที่วัดแห่งหนึ่งเพื่ออุปสมบท เป็นพระภิกษุที่เคร่งในธรรมวินัย

  罗炎出家后,唯恐父亲仍要逼他继承相位,便千里迢迢,远走佛教盛行的龟兹。一路上,他翻山越岭,跨过湍急的河流,穿越塔克拉玛干沙漠,走过野兽出没的森林。白天摘野果充饥,夜里在山洞过夜。他忘却了困难,感到像逃出笼子的鸟儿那样舒畅愉快。

   ถึงแม้กุมารายนะได้ออกบวชแล้ว ก้ยังวิตกว่าบิดาจะบังคับให้กลับไปสืบทอดตำแหน่งจึงได้ตัดสินใจออกจาริกไป ยังแคว้นกุฉา ซึ่งเป็นเมืองที่นับถือพุทธศาสนาอย่างแพร่หลายระหว่างทางท่านได้ฝ่าฟัน อุปสรรคนานัปการ ปีนภูเขาอันสุงชัน ข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ฝ่านทะเลทรายตากลามากัน และป่าดงพงไพรที่มีสัตว์ร้ายชุกชุม กลางวันประทังความหิวด้วยผลไม้ป่า ค่ำคืนนอนพักรมตามถ้ำ แต่ท่านก็ไม่รู้สึกถึงความยากลำบากทั้งมวลที่ได้รับ กลับรู้สึกเหมือนนกน้อยที่หลุดพ้นจากรง มีทั้งความสุขและอิสระ

        

  龟兹国位于中国西北,既现在的新疆塔里木盆地的北侧的库车县一带。年轻的龟兹国王白纯听说罗炎舍弃荣华富贵出家,十分仰慕,亲自出城,把形容憔悴而气质高贵优雅的罗炎迎进王宫。

แคว้น กุฉา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ปัจจุบันคืออำเภอคู่เชอ ซึ่งอยู่ด้านเหนือของถ้ำหลี่มู่เผิน แห่งมณฑลซินเจียง กษัตริย์ของแคว้นกุฉาซึ่งมีพระชนม์มายุเยาว์วัยพระนามว่า ไป่ฉุน ทรงทราบข่าวเกี่ยวกับการสละยศถาบรรดาศักดิ์เพื่อออกบวชของกุมารายนะ ทรงมีศรัทธาปสาทะในตัวกุมารายนะมาก จึงได้เสด็จออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง และนิมนต์กุมารายนะซึ่งมีสีหน้าอิดโรยจากการเดินทาง แต่ก็ยังคงบุคลิกที่สง่างาม ให้เข้าไปในวังด้วยกัน

  罗炎在王宫受到了热情的款待,到了第三天,国王便宣布请罗炎担任国师的决定。罗炎无法推托,只得留在宫中。再说国王的妹妹公主耆婆已年届二十,生得聪明美丽,才智出众,慕名求婚者很多,却没有一位能让她看中的。她每天除了在花园里散步,便是在闺房安安静静的看书读经。  

            กุมารายนะได้รับการรับรองอย่างอบอุ่นจากกษัตริย์ไป่ฉุน หลังจากนั้น 3 วัน กษัตริย์ไป่ฉุนทรงตัดสินพระทัยประกาศแต่งตั้งให้กุมารายนะรับตำแหน่งเป็นพระ ราชครู กุมารายนะไม่สามารถอ้างเหตุผลปฏิเสธได้จึงต้องพำนักอยู่ในวัง กล่าวถึงพระขนิษฐาของกษัตริย์ไป่ฉุน พระนามว่าองค์หญิงฉีผอ ทรงมีพระชนมายุ 20 พรรษา พระสิริโฉมงดงามสติปัญญาหลักแหลมเหนือผู้ใด มีผู้ใฝ่ผันจะสู่ขอมากมาย แต่ไม่มีใครสักคนที่องค์หญิงฉีผอถูกตาต้องใจเลย ทุกๆวันองค์หญิงฉีผอ นอกจากเดินเล่นอยู่ในอุทยานแล้วก็ใช้เวลาอยู่ในห้องส่วนพระองค์อ่านหนังสือ ศึกษาธรรมะ

 

  从天竺国来了贵宾的事,耆婆也有所闻,这天,她从闺房出来,在宫中碰见王兄正陪着一位陌生的男子走来。她刚想回避,被国王叫住了。国王为公主和罗炎做了介绍,罗炎恭敬的合掌致礼,公主看到这位温文尔雅的比丘,禁不住怦然心动,害羞地跑开去。องค์ หญิงฉีผอ พอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับแขกผู้ทรงเกียรติที่มาเยือนจากชมพูทวีป วันหนึ่งขณะที่เสด็จออกจากห้องประทับ ก็เผชิญกับพระเชษฐาซึ่งเสด็จเคียงข้างมากับชายแปลหน้าผู้หนึ่ง ขณะที่คิดจะเดินเลี่ยง พระเชษฐาก็สั่งให้หยุดและแนะนำให้รู้จักกับกุมารายนะ กุมารายนะพนมมือแสดงความเคารพ เมื่อองค์หญิงได้ทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุผู้มีบุคลิกงามสง่าสำรวม พระหทัยก็รู้สึกหวั่นไหวทันทีและรีบเดินจากไปอย่างเอียงอาย

  国王把这一切都看在眼里。他正想让罗炎长久留在龟兹国,便准备亲自撮合这门亲事。过了几天,他让人把罗炎和公主都请来一手拉着一个,兴致勃勃的说:“你们真是天造地设的一对呀!”罗炎一时不知所措。尽管他深知国王的旨意是不能违抗的,但还是试图推托。

กษัตริย์ ไปฉุนทรงทอดพระเนตรเห็นและเข้าพระทัยทุกอย่าง พระองค์เองก็มีพระประสงค์จะให้กุมารายนะพำนักอยู่แคว้นกุฉาตลอดไป ดังนั้นจึงทรงวางแผนเตรียมการสู่ขอและจัดพิธีสยุมพรให้ด้วยพระองค์เอง หลายวันต่อมากษัตริย์ไป่ฉุนจึงรับสั่งให้พระขนิษฐาและกุมารายนะเข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองมาถึงพระองค์ทรงกุมมือคนทั้งสองไว รับสั่งด้วยความพอพระทัยว่า “ท่านทั้งสองเสมือนคู่ที่ฟ้าดินสรรค์สร้างมาจริงๆ” ทันใดนั้น กุมารายนะรู้ตัวดีแต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร แม้จะเข้าใจดีว่าพระบัญชานั้นไม่อาจขัดขืนได้ แต่ก็ลองพยายามบ่ายเบี่ยง

  罗炎向国王陈述自己的意见,可是不等他说完,国王的不高兴地说:“出家后难道不可以还俗吗?娶了妻子就不能再读经吗?”在国王的坚持下,罗炎只好答应这门婚事。他先依照佛教律仪,在当地高僧的见证下,舍戒还俗,脱下僧衣,穿上华丽的贵族服装。

กุ มารายนะพยายามอธิบายความคิดเห็นของตน แต่กษัตริย์ไป่ฉุนไม่รอให้กุมารายนะพูดจบ พระองค์ทรงกริ้วและรับสั่งว่า “ออกบวชแล้วก็ลาสิกขาบทได้มิใช่หรือ แต่งงานแล้วไม่สามารถศึกษาธรรมต่อไปได้หรือไร” ภายใต้การยืนกรานของกษัตริย์ไป่ฉุน กุมารายนะจำต้องตอบรับเรื่องพิธีสยุมพรและปฏิบัติตามพุทธพิธี ภายใต้การรู้เห็นเป็นพยานของพระเถระผู้ใหญ่ ละการถือศีลนุ่งจีวรและเปลี่ยนมาสวมใส่อาภรณ์อันสวยงามของผู้สูงศักดิ์

  婚礼隆重的举行。国王和王后亲自把盏,祝福新人福慧双修,恩爱长久。大臣们举杯祝贺,脸上充满了笑容。公主美丽的容貌,含情的双眸,聪慧的谈吐和贤静的举止,使罗炎在现实面前不得不改变初衷。

      พิธีสยุมพรจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ กษัตริย์และพระราชินีทรงเลี้ยงรับรองแขกและข้าราชบริพารด้วยพระองค์เอง ทรงอวยพรให้คู่ข่าวสาวมีความสุขรักกันชั่วนิรันดรืให้ทะนุถนอมและศึกษา บำเพ็ญธรรมพร้อมๆกันไป ข้าราชบริพารก็พร้อมใจถวายพระพรด้วยรอยยิ้มกันถ้วนหน้า ความงดงามแช่มช้อยและสายดาสดใสหวานซึ้งขององค์หญิงประกอบกับการสนทนาที่ เฉลียวฉลาด กิริยาท่าทางสงบเสงี่ยม ทำให้กุมารายนะยอมจำนนต่อความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า และเปลี่ยนแปลงความตั้งใจโดยสิ้นเชิง

   婚后不久,公主便怀孕了,罗炎看到公主腹部有一个美丽的红色圆形胎记,非常高兴,因为这是日后必生大智慧之子的征兆。公主怀孕后变得更加聪明。有一天, 他突然用流利的天竺语与罗炎谈起话来,这使她自己和罗炎都十分惊讶。从此,他们夫妻经常在一起讨论佛经,使公主对佛教教义有了深刻的了解,这天,宫女在与 公主谈北面山上的雀梨大寺和寺内的高僧。

  หลังพิธีสยุมพรไม่นาน องค์หญิงก็ทรงพระครรภ์ กุมารายนะเห็นพระครรภ์มีสัณฐานกลมแดงงดงาม มีความปิติยินดีขึ้นมาว่าทารกในครรภ์ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมล้นด้วย ปัญญามาถือกำเนิดแน่ หลังจากทรงพระครรภ์ องค์หญิงก็มีความเฉลียวฉลาดยิ่งขึ้น อยู่มาวันหนึ่งนางใช้ภาษาภารตะสนทนากันพระสวามีอย่างคล่องแคล่ว เหตุการณ์เช่นนี้ยิ่งทำให้สองสามีภรรยารู้สึกตื่นเต้นอัศจรรย์ใจ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองท่านก็ได้แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมซึ่งกันและกัน ทำให้องค์หญิงเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพุทธธรรมมากขึ้น วันหนึ่งนางกำนัลกำลังสนทนากับองค์หญิงถึงพระเถระผู้ใหญ่ในวัดเชวี่ยหลี่ ซึ่งตั้งอยู่ขนเขาทางทิศเหนือของแคว้นกุฉา

  公主早就想去寺庙礼佛,于是就征得丈夫同意,邀请了几位王族妇女和大臣的夫人们,准备了几车物品,又请了几位德行高尚的比丘尼,坐上马车,在一个阳光明媚的日子里,向雀梨寺出发。僧人们按礼节接待了她们,安排她们在寺庙右边的女宾馆挂单。

  

            องค์หญิงฉีผอมีพระประสงค์จะไปสักการบูชาพระอยู่แล้ว เมื่อได้รับการเห็นชอบจากพระสวามี ก็ทรงชักชวนภริยาข้าราชการผู้ใหญ่อีกหลายท่านจัดเตรียมข้าวของหลายคันรถ พร้อมทั้งนิมนต์ภิกษุณีที่มีวัตรปฏิบัติดตามและจิตใจบริสุทธิ์หลายรูป ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าสู่วัดเชวี่ยหลี่ท่ามกลางแสงแดดสดใส  องค์หญิงได้รับการต้อนรับตามธรรมเนียมจากวัดและจัดให้พำนักอยู่ห้องรับรอง อุบาสิกาที่อยู่ทางขวาของวัด

 

  公主和同去的妇女们天天在寺内礼佛听法。有的妇女理解不了经义,公主就为她们讲解。一天,一位从天竺来的高僧用天竺语讲经,公主听的入了神。高僧讲毕。公主用流利的天竺语提问,这使大家都非常惊讶。

ทุกๆ วันองค์หญิงพร้อมผู้ติดตามจะไปสักการบูชาพระ และฟังเทศน์ศึกษาธรรม มีสตรีบางท่านไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคัมภีร์ องค์หญิงก็ทรงอธิบายให้ฟัง วันหนึ่งมีพระเถระผู้ใหญ่จากชมพูทวีปใช้ภาษาภารตะแสดงธรรม องค์หญิงทรงฟังอย่างเพลิดเพลินสนพระทัย เมื่อพระเถระเทศน์จบพระนางได้ใช้ภาษาภารตะหยิบยกปัญหาขึ้นถามอย่างคล่อง แคล่ว ทำให้ทุกคนที่ไปด้วยมีความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

   寺里的一位叫达摩瞿沙的法师对大家说:“这一定是怀有大智慧之子的缘故。”他见大家不理解,又接着说:“舍利弗是佛陀座下智慧第一的大弟子,据说她母亲 怀孕时,变得智慧过人,连婆罗门中最负盛名的雄辩家梵志都辩不过他。舍利弗降生以后,他母亲又恢复到从前的样子了。”大家听了这番话,都为公主感到高兴。

ใน วัดแห่งนี้มีธรรมมาจารย์ท่านหนึ่งนามว่า “ธรรมโฆษะ” ได้อธิบายกับทุกคนว่า “เหตุที่องค์หญิงมีความสามารถพิเศษนี้ ในครรภ์ของพระนางคงมีทารกที่มีปัญญาหลักแหลมยิ่งใหญ่เป็นแน่” ท่านเห็นทุกคนยังไม่เข้าใจจึงอธิบายต่อว่า “พระสารีบุตรเป็นอัครสาวกที่มีปัญญาเป็นเลิศขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่ากันว่าขณะที่มารดาของพระสารีบุตรตั้งครรภ์ มารดาของท่าได้กลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเหนือผู้อื่น แม้กระทั่งพราหมณ์นักโต้วาทะอันลือชื่อแห่งตระกูลพราหมณ์ก็ยังโต้สู้ไม่ได้ แต่หลังจากที่พระสารีบุตรถือกำเนิดแล้ว มารดาก็กลับกลายเป็นคนธรรมดาเช่นเดิม” เมื่อทุกคนได้ทราบความจริงแล้วต่างก็แสดงความยินดีกับองค์หญิง

  从雀梨寺回宫后,出家的念头在公主的心里一点点滋长着。经过十月怀胎,孩子出生了,是一个健康的男婴。罗炎惊喜万分,给儿子取名鸠摩罗什,他感到很幸福,经常同妻子坐在摇篮边,看着自己的儿子。这孩子耳大面阔,鼻子高挺,相貌不凡。

มื่อ กลับจากวัดเชวี่ยหลี จิตที่มุ่งมั่นจะออกบวชค่อยๆทวีขึ้นทีละน้อย เมื่อครบกำหนดสิบเดือนของการตั้งครรภ์ ก็ได้ให้กำเนิดทารกเพศชายที่มีพลานามันสมบูรณ์แข็งแรง กุมารายนะตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่งตั้งชื่อให้พระโอรสว่า “กุมารชีพ” ท่านรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขมาก และมักจะนั้นอยู่ข้างอู่กับพระชายามองดูพระโอรสอย่างภูมิใจ พระโอรสทรงมีรูปหน้ากว้างใหญ่ หูยาว จมูกโด่ง หน้างามอย่างพิเศษทีเดียว

 

องค์หญิงออกพรรชา

 

 

  罗什出生以后,公主更加虔诚地信奉佛教。有一天,她向丈夫提出 要去出家。罗炎对她说:“你要出家我不反对,但是孩子还在吃奶,你忍心弃他不顾吗?”公主听了丈夫一番合乎情理的话,暂时打消了出家的念头。

หลัง จากให้กำเนิดพระโอรสกุมารชีพแล้ว องค์หญิงก็ยิ่งศรัทธาเสื่อมใสพุทธศาสนามากขึ้น อยู่มาวันหนึ่ง นางได้ตรัสกับพระสวามีเรื่องขอออกบวช ท่านบอกกับนางว่า “องค์หญิงจะออกบวช ข้าพเจ้าไม่คัดค้าน แต่ลูกน้อยยังต้องการน้ำนมมารดา ท่านจะทอดทิ้งทารกอย่างไม่ปราณีหรือ” องค์หญิงฟังคำพูดของพระสวามีซึ่งเปี่ยมด้วยเหตุผล จึงระงับเรื่องการออกบวชไปชั่วขณะ

   后来,公主又生了一个儿子,取名弗沙提婆。公主尽心抚养两个儿子,把出家的念头搁置一边,可是弗沙提婆经常生病,给公主带来很大烦恼。且喜罗什像小树苗 一样茁壮成长着。一天,公主带着罗什在花园散步,随口教了他一首儿歌,谁知只教了一遍,他就会背了。又教了他另一首,刚教完,罗什就有腔有调的唱了起来。 公主又惊又喜。 ต่อมาภายหลังองค์หญิงให้กำเนิดพระโอรสอีกองค์พระนามว่า “ปุษยเทวะ” พระนางทรงทุ่มเททั้งกายใจเพื่อเลี้ยงดูพระโอรสทั้งสอง เรื่องออกบวชนั้นจึงเก็บไว้ก่อน ทว่าพระโอรสองที่ 2 ปุษยเทวะ เป็นเด็กค่อนข้างขี้โรคอ่อนแอ นำความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ใจให้องค์หญิงเป็นอย่างมาก โชคดีที่กุมารชีพน้อย เปรียบเสมือนต้นกล้าเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งองค์หญิงพากุมารชีพเดินเล่นอยู่ในอุทยาน พลางก็สอนกุมารชีพร้องเพลงเดินเพลงหนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่าสอนรัองเพียงเที่ยว เดียว กุมารชีพก็สามารถท่องออกมาได้ นางสอนร้องอีกเพลงพอสอนจบ กุมารชีพก็ร้องตามได้ถูกต้องทันทีทั้งสำเนียงและท่วงทำนอง องค์หญิงทั้งตื่นเต้นและดีใจ

  没过多久,体弱多病的弗沙提婆夭折了。公主非常伤心,她在骤然间经历了生的痛苦,死的悲哀。她想:我与弗沙提婆的因缘何其短暂啊!在生死、聚散面前,人的力量是那么的渺小!世上的一切,荣华、富贵、欢乐、权力,是那么不可靠!出家的念头再次在她的心头复萌。     ต่อมาไม่นาน ร่างกายที่อ่อนแอขี้โรคของปุษยเทวะ ทำให้เป็นเด็กอายุสั้นเสียชีวิตแต่เยาว์วัย องค์หญิงสุดโทมนัส พระนางได้ลิ้มรสความปวดร้าวยามที่มีชีวิตอนสุดโศกเศร้า เมื่อมีการตายจาก ฉุกคิดได้ว่า เพราะเหตุใดข้ากับบุตรชายปุษยะเทวะจึงมีบุญวาสนาต่อกันสั้นนั้น ภายใต้วัฏจักรการเกิด การพบปะและการพรากจาก ศักยภาพของมนุษย์ช่างน้อยนิดเหลือเกิน สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกไม่ว่าความรุ่งโรจน์ ร่ำรวย สุขสบาย อำนาจล้วนไม่อาจยึดถือได้เลย เรื่องการออกบวชที่คิดอยู่เสมอนั้นก็ผุดขี้นอีกครั้ง

  四月的一天,阳光明媚,郁闷已久的公主带着几个宫女走出深宫,去郊外散心。白云漂浮,绿草青青,大自然的景色使公主的心情逐渐放松,她不知不觉地朝绿野深处走去。突然,一具白骨出现在眼前,公主刚舒展的心情一下子收紧,沉入到生与死的思考之中。闷闷不乐的回到王宫。   วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ องค์หญิงซึ่งตกอยู่ในห้วงทุกข์มานาน ได้เสด็จออกจากวังพร้อมนางกำนัล ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ชานเมือง แลเห็นเมฆขาวเลื่อนลอยบนท้องฟ้า ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม ทิวทัศน์ธรรมชาติทำให้องค์หญิงผ่อนคลายความทุกข์ลงได้บ้าง นางเดินต่อไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจีเบื้องหน้า ทอดพระเนตรเห็นกระดูกคนตายทิ้งกองอยู่ ทันใดนั้น พระทัยที่เพิ่งจะเบิกบานกลับห่อเหี่ยวลงทันที เข้าสู่ห้วงคิดคำนึงเกี่ยวกับการเกิดการตายของมนุษย์ องค์หญิงจึงเสด็จกลังวังอย่างไม่เบิกบานพระทัย

   公主无法忘记在郊外所看到的一切,于是决定出家。她坚决地对丈夫说:“罗炎,我决定出家做比丘尼,请你不要阻拦我。”罗炎再一次用爱心打动她,然而公主 决心已定。为了表示自己的决心,她拒绝进食,带了第六天,已是奄奄一息了。罗炎不能眼看爱妻死去,只得答应公主出家。他命令宫女端来食物,亲自一匙一匙的 给公主喂下去。 องค์หญิงไม่สามารถลือเรื่องทุกอย่างที่ทรงเห็นจากชานเมืองได้ ดังนั้นจึงตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าจะออกบวช ทรงตรัสกับพระสวามีอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ท่านกุมารายนะ ข้าพเจ้าตั้งใจจะบวชเป็นภิกษุณีแน่แล้ว  ขอท่านอย่าได้คัดค้านอีก” กุมารายนะปลอบประโลมนางด้วยความรักอีกหมายจะให้นางกลับใจ แต่องค์หญิงได้ตัดสินพระทัยในครั้งนี้ พอถึงวันที่หกพระวรกายก็อิดโรยเหมือนจะสิ้นพระชนม์อยู่รอมร่อ กุมารายนะทนเห็นภรรยารักตายต่อหน้าต่อตาไม่ได้ จึงจำใจอนุญาตให้องค์หญิงออกบวช กุมารายนะให้นางกำนัลยกพระกระยาหารมา แล้วป้อนให้องค์หญิงเสวยทีละคำด้วยตัวท่านเอง

  第二天早晨,公主便剃发出家,不久正式受戒做了比丘尼。但是她没有立即住进寺庙,只在家中修行,因为她想把罗什一起带着出家,让他成为一个大智大慧的佛学家。只是这件事她还难以启齿,因为她知道罗什是罗炎唯一的儿子,罗炎是多么的爱他的儿子啊。

  วันรุ่งขึ้น องค์หญิงก็ปลงพระเกศาออกบรรพชา เมื่อถึงเวลาตามพุทธบัญญัติก็เข้าพิธีอุปสมบทเป็นภิกษุณีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังพำนักอยู่ในวังไม่ได้พำนักที่วัดทันที เพราะองค์หญิงมีพระประสงค์จะพาพระโอรสกุมารชีพออกบวชด้วย เพื่อจะให้กุมารชีพกลายเป็นนักปราชญ์ทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ปราดเปรื่อง แต่นางไม่กล้าที่จะออกปากกับพระสวามี  เพราะนางเข้าพระทัยดีว่าพระโอรสกุมารชีพเป็นหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียว ของท่านกุมารยนะ

  罗什像是很懂母亲的心事,他告诉父亲,自己要跟着母亲出家。一向深明佛理的罗炎眼看着旗子出了家,现在儿子又要出家,感到这真是世事无常。他抚摩着儿子的头说:“你就随你母亲去吧。”罗什又对母亲说要随母亲出家,母亲笑着答应了。

กุมารชีพดูจะเข้าใจถึงหัวอกของพระมารดาจึงบอกกับบิดาว่า อยากจะออกบวชตามพระมารดา กุมารายนะเป็นคนเข้าใจพุทธธรรมอย่างลึกซึ้งมาตลอด ภรรยาได้ออกบวชแล้วยามนี้ลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวก็จะตามเสด็จออกบวช ด้วย จึงรู้สึกถึงความไม่ยั่งยืนของสรรพสิ่งที่เป็นอนิจจัง กุมารายนะลูบประโลมศีรษะพระโอรสอย่างรักใคร่เอ็นดูแล้วพูดว่า “เจ้าจงตามพระมารดาไปเถิด” กุมารชีพหันมาบอกกับพระมารดาว่าจะตามเสด็จออกบวชด้วย พระมารดาทรงตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 

   七岁的鸠摩罗什随着母亲开始了很艰难的佛学生涯。他们在一座寺庙里住了下来,罗什拜当时著名的小乘学者佛图舌弥为师,修习《阿毗昙经》。佛图舌弥看罗什 相貌聪明,便先教他十首偈子。想不到师傅刚念完,罗什就一字不差的背了出来。师傅又念了十首,罗什又一口气背了出来。罗什惊人的记忆力使佛图舌弥愣住了。

กุมาร ชีพมีอายุเพียง 7 ปีก็เริ่มตามเสด็จพระมารดาใช้ชีวิตบนเส้นทางการศึกษาพุทธธรรมอย่างยากลำเค็ญ สองแม่ลูกเข้าพำนักในวัดแห่งหนึ่ง กุมารชีพได้คารวะท่านพุทธสิงหะแห่งนิกายหินยานผู้มีชื่อเสียง เริ่มต้นศึกษาอภิธรรมสูตร ท่านอาจารย์พุทธสิงหะเห็นกุมารชีพมีหน้าตาเฉลียวฉลาดก็สอนบทสวดสิบบทก่อน ทันทีที่ท่านอาจารย์สอนจบกุมารชีพก็ท่องออกมารวดเดียวจบ ความทรงจำที่ดีเลิศอัศจรรย์ของกุมารชีพ ทำให้อาจารย์พุทธสิงหะตกตะลึงนิ่งไป

   从第二天起罗什每天熟读背诵一千偈。每一首偈三十二个字,一千偈就是三万二千字。他不但记忆力惊人,理解力也强,对师父所讲的义理能透彻地理解;就是最 难理解的经文,也能明白一些。师父很喜欢他,尽可能地传授。据说,在短短的一年中,罗什念过的偈子就有三十万首,经文也有十卷。有人作过统计,他幼年熟 读、背诵的佛经,竟有四百多万字。      นับจากนั้น กุมารชีพก็ท่องอ่านบทสวดทุกวัน วันละพันบท แต่ละบทมีอักษร 32 ตัว พันบทก็เท่ากับ 32,000 ตัวอักษร ท่านไม่เพียงมีความทรงจำดีเลิศอย่างน่าตกใจ ยังมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงเหตุผลที่อาจารย์ได้อธิบายเป็นอย่างดี แม้คัมภีร์บางบทยากจะเข้าใจ ท่านก็ยังพอเข้าใจได้บ้าง อาจารย์ให้ความรักและเอ็นดูแก่กุมารชีพมาก พยายามถ่ายทอดคำสอนให้มากที่สุด กล่าวคือในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 1 ปี บทสวดที่กุมารชีพท่องได้ทั้งหมดมี 3 แสนบท คัมภีร์อีก 10 เล่ม มีผู้เคยคำนวณว่าเฉพาะพุทธธรรมที่กุมารชีพได้ศึกษาครั้งเยาว์วัย ที่มีความเข้าใจอย่างละเอียดและสามารถท่องขึ้นใจได้นั้นมีอยู่ประมาณ 4 ล้านตัวอักษร

  公主母子出家的消息传开后,龟兹国的信徒们为了表示对公主母子的尊敬,源源不断地为他们送来供养。公主感到不安。她想作为出家人,不能接受过分尊敬而得到太多的东西;可要阻止人们这样做,又显然是不可能的,怎么办?ข่าว การออกบวชขององค์หญิงแม่ลูกแพร่กระจากออกไป พุทธศาสนิกชนชาวกุฉาต่างแสดงความภักดีต่อองค์หญิงแม่ลูก โดยส่งข้าวปลาอาหารไปให้อย่างไม่ขาดสาย พระนางรู้สึกไม่สบายพระทัยเพราะผู้ออกบวชต้องไม่รับสิ่งของมีค่าหรือรับการ ยกย่องเป็นพิเศษ จะห้ามปรามชาวเมืองก็คงไม่ได้ จะต้องทำอย่างไรดีเล่า

 

  令公主想不到的是,罗什竟引用佛经上的话,把公主的担忧说了出来,公主惊喜交加。她对罗什说:“国人送来供养,是因为我是王妹,你是王甥。看来我们只有离开龟兹国,撇弃这养尊处优的生活。”  สิ่งที่คาดไม่ถึงก็มาถีง กุมารชีพสามารถนำเอาความหมายของพระคัมภีร์มาใช้พูดตรงกับความรู้สึกในใจของ องค์หญิง องค์หญิงทั้งตกตะลึงและยินดี จึงตรัสกับกุมารชีพว่า “ผู้คนในเขตแคว้นที่ส่งข้าวของมาให้ เพราะแม่เป็นพระขนิษฐา ลูกเป็นพระราชนัดดา ฉะนั้นพวกเราจำต้องไปจากแคว้นกุฉา ละทิ้งชีวิตที่ตั้งอยู่บนความสมบูรณ์พูนสุข”

  公主听说罽宾国(今克什米尔一带)有一位大德名叫盘头达多,为了过真正的出家生活,也为了让罗什经受风雨的锻炼,就带着罗什离开龟兹,远赴罽宾国那年,罗什九岁。องค์ หญิงได้ทราบว่าแคว้นกุภาน (ชื่อเดิมของกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน คือแถบเมืองกัษมีระ ในปัจจุบัน) มีพระเถระผู้ทรงคุณธรรมท่านหนึ่งนามว่าพันโธเทวทัต  ดังนั้นองค์หญิงผู้ทรงมีพระประสงค์จะใช้ชีวิตนักบวชอย่างแท้จริง และเพื่อให้กุมารชีพได้ฝึกรับมือกับความยากลำบาก จึงไปจากแคว้นกุฉาออกเดินทางไกลไปยังแคว้นกุภาน ในปีนั้นกุมารชีพมีอายุเพียง 9 ปี

  母子一行不久就面临了穿越沙漠的艰难。浩瀚的沙漠,一望无际,唯有隐约可见的骆驼粪便和残缺不全的尸骸,表明曾经有人在这里被吞噬。和沙漠相比,人是那么渺小阿!公主默默地祈祷佛陀保佑他们母子一行顺利经过这片大沙漠。  ต่อมาไม่นาน สองแม่ลูกและผู้ติดตามก็ต้องเผชิญกับความทุรกันดารของทะเลทรายอันเวิ้ง ว้างกว้างใหญ่ ได้เห็นเพียงมูลอูฐและซากศพที่กะพร่องกะแพร่งไม่ครบส่วนอย่างเลือนราง เห็นได้ชัดว่าละแวกนี้เคยมีผู้คนถูกกลืนกิน เมื่อเทียบกับผืนทะเลทรายที่กว้างใหญ่แล้ว มนุษย์นี้ช่างเล็กเหมือนผงธุลีจริงหนอ องค์หญิงทรงอธิฐานขอพระพุทธคุณให้ช่วยคุ้มครองแม่ลูกและผู้ติดตามให้เดินทาง ผ่านทะเลทรายไปโดยสวัสดิภาพ

  突然,乌云遮日,狂风卷起,黄沙铺天盖地向他们扑来。他们只得停止前进,背靠着骆驼躲避风沙。这时,气温也骤然下降,大家都冻得缩成一团,瑟瑟发抖。

    ทันใดนั้น แสงอาทินย์ถูกบดบังด้วยเมฆคลุ้ม ลมพายุม้วนวนเป็นระลอก ฝุ่นทรายสีเหลืองโหมกระหน่ำพัดปกคลุมมาอย่างแรง ทำให้ต้องหยุดการเดินทาง หันหลังพิงกับตัวอูฐเพื่อหลบพายุทรายที่แรงจัด ซ้ำอุณหภูมิก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ทุกคนหนาวจนตัวแข็งซุกขดตัวอยู่ด้วยกันเพราะความหนาวเหน็บจนสั่นสะท้าน

                                     

           

                         

ออกจาริกแสวงหาอาจารย์

          

         

          

 

           

     

           

              

 

 

  风沙过后,他们继续打起精神赶路。公主问罗什苦不苦,罗什说:“只要能求得佛法,再苦我也感到快乐!”公主欣慰的笑了。

 

 

 

   หลังลมพายุผ่านพ้น จึงตั้งจิตแน่วแน่ออกเดินทางต่อไป องค์หญิงทรงถามกุมารชีพว่า ทุกข์ทรมานไหม กุมารชีพบอกว่า “ขอเพียงแสวงหาพุทธธรรมได้ จะทุกข์ยากกว่านี้ก็เป็นสุข องค์หญิงทรงแย้มสรวลอย่างปลาบปลื้มพระทัย

 

  走出沙漠之后,由于上了新的考验。眼前的雪山崎岖陡峭,一不小心就会跌下万丈深渊,化作齑粉。一位随行者对公主说:“这里气候寒冷,四季冰封,风狂雪猛,你和公子千万要小心啊。”公主和罗什准备经受新的磨难。

  เมื่อการเดินทางบนทะเลทรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็ต้องเผชิญการทดสอบครั้งใหม่เพราะเบื้องหน้าเป็นภูเขาหิมะที่มีเส้นทางสูง ชัยและขรุขระ หากขาดความระมัดระวังก็จะพลัดตกสู่ห้วงเหวลึกกลายเป็นผงธุลีทันที ผู้ติดตามคนหนึ่งกราบทูลองค์หญิงว่า “แถบนี้อากาศหนาวเย็น ตลอดปีปกคลุมด้วยหิมะ ลมพายุกระโชกแรง หิมะก็ตกหนักพระองค์และพระโอรสต้องทรงระมัดระวังเป็นพิเศษ” องค์หญิงแม่ลูกต้องเตรียมเผชิญความลำบากตรากตรำอย่างใหญ่หลวงอีกครั้ง

  暴风雪来了,庞大的骆驼已经举步维艰,不能再负载公主母子了。公主和罗什走下骆驼,艰难地行走。狂风漫卷大雪,呼啸声一阵紧一阵,随行者感到非常紧张,一心求法的母子却毫无惧色,他们互相搀扶着,贴身山壁,迎着风雪前进。

ลมพายุแรงกล้าโฆมกระหน่ำมา อูฐซึ่งบรรทุกสัมภาระมากมายไม่สามารถทานรับน้ำหนักของสองแม่ลูกได้ เพราะทางขึ้นเขาสูงชันและคับแคบ ดังนัน สองแม่ลูกจึงต้องลงจากอูฐและเดินอย่างลำบากแสนเข็ญ หิมะปะปนกับพายุ พัดกระโชกคำรามมาเป็นระลอกผู้ติดตามต่างตื่นตระหนกและกังวล ส่วนสองแม่ลูกที่มีจิตใจแน่วแน่จะแสวงหาพระธรรมไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่ น้อย ช่วยกันประคับประคองแนบกายกันเดินชิดสันเขา ฟันฝ่าหิมะต่อไปเบื้องหน้า

  历尽了千心万苦,终于来到了印度河前。渡过这条河,就是罽宾国了,罗什指着印度河,高兴地与母亲说话。公主慈祥地望着儿子,她觉得,经过这次长途跋涉,儿子变得更坚强了。而罗什也感到母亲的爱心给了她最大的勇气和力量。

      ผ่านความลำบากยากเย็นไปแล้ว ในที่สุด เบื้องหน้าคือแม่น้ำสินธุ ผ่านแม่น้ำนี้ไปแล้วก็จะถึงแคว้นกุภาน กุมารชีพชี้ไปยังแม่น้ำพูดคุยกับพระมารดาอย่างเป็นสุข องค์หญิงมองดูพระโอรสด้วยความเมตตา นางรู้สึกว่าหลังผ่านการเดินทางอันแสนเข็ญบนเส้นทางไกลนี้ พระโอรสของนางมีความหนักแน่นเข้มแข็งกว่าเดิม ส่วนตัวของกุมารชีพเองรู้อยู่เต็มอกว่าทุกกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านพ้นมาได้ เพราะความรักอันสูงค่าจากพระมารดาที่ทำให้มีความกล้าหาญและมีกำลังใจมากเป็น พิเศษ

  罽宾国的盘头达多大师是国王的堂兄弟,他舍弃一切,出家修行,对与佛教的经、律、论三藏和佛理的九部都非常精通。他的渊博学识和高尚品德,不但使国内的人们对他无比敬仰;就连国外的人,也纷纷远道而来,拜他为师。

ท่านพันโธเทวทัต เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกษัตริย์กุภาน ท่านละทิ้งทุกอย่างทางโลกออกบวชเพื่อบำเพ็ญธรรม ไม่ว่าจะเกี่ยวกับคัมภีร์ กฎวินัยของศาสนาพุทธรวมไปถึงพระไตรปิฎกและพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า  เล่ม ท่านก็รู้แจ้งแตกฉาน มีความรู้ลึกซึ้งไพศาล และมีอุปนิสัยดีงามความประพฤติสูงส่ง  ไม่เพียงแต่คนในแว่นแคว้นเท่านั้นที่ให้ความเคารพนบนอบ แม้คนต่างแว่นแคว้นที่ได้ยินกิตติศัพท์ต่างก็หลั่งไหลมาคารวะขอเป็นศิษย์ อย่างไม่ขาดสาย

  公主母子一到罽宾国就立刻去拜见盘头达多。大师得知母子为求佛法,历尽辛苦,既感动,又惊讶,马上出来接见,向他们母子慰问,诚心诚意地欢迎他们到来。大师见罗什年纪虽小,却仪态端正,彬彬有礼,乌黑的眼睛闪着智慧的光芒,便心生欢喜,答应收罗什为弟子。

 

 

 

            ทันทีที่สองแม่ลูกเสด็จถึงแคว้นกุภาน ก็รีบไปนมัสการพันโธเทวทัตเถระ พระเถระได้ทราบถึงความมุ่งมั่นขององค์หญิงแม่ลูกที่มุ่งใฝ่หาพระธรรม และได้ฟันฝ่าอุปสรรคมามากมาย ทั้งซาบซึ้งและอัศจรรยืใจ จึงรีบออกมาต้อนรับพร้อมโอภาปราศรัยเชื้อเชิญด้วยใจจริง  พระเถระเห็นกุมารชีพแม้อายุยังน้อย แต่บุคลิกสง่างาม มีสัมมาคารวะ ดวงตาดำขำ เปล่งประกายบ่งบอกถึงอัจฉริยภาพ ในใจเกิดความชื่นชอบ และยินดีตอบรับกุมารชีพเป็นศิษย์

 

  罗什恭恭敬敬地向盘头达多行拜师之礼。盘头达多用罗什学过的《阿毗昙经》考他,罗什的记忆力和理解力都让他暗暗称奇,他感到这位新收的弟子无疑是旷世奇才。

กุมารชีพก้มกราบทำพิธีไหว้ครูด้วยความเคารพ พระเถระทดสอบความรู้กุมารชีพด้วยอภิธรรมสูตรที่กุมารชีพเคยศึกษามา ความทรงจำและความเข้าใจของกุมารชีพทำให้พระเถระรู้สึกพิศวงเป็นอย่างมาก ศิษย์ใหม่คนนี้จะต้องเป็นเลิศในปฐพีแน่

   盘头达多向罗什传授《中阿含经》。此经相传为佛租释迦牟尼入灭后最初结集的四部经藏之一。这四部经依文字长短和内容特点,分别称《长阿含经》、《中阿含 经》、《杂阿含经》、《增一阿含经》。这天盘头达多在佛殿讲完经以后,便要大家熟读精思。第二天,罗什就背诵给老师听,又把所悟解的经文讲述了一遍。老师 为他的决定聪明而高兴,又授他《长阿含经》。

พัน โธเทวทัตเถระถ่ายทอดพระสูตรมัธยมาคมให้แก่กุมารชีพ  เล่าสืบต่อกันมาว่าพระธรรมบทนี้เป็นหนึ่งในสีบทของพระไตรปิฎก ซึ่งถูกรวบรวมและสังคายนาขึ้นครั้งแรกหลังจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ ปรินิพพาน พระไตรปิฎกทั้งสี่บทนี้แยกตามความสั้นยาว จุดเด่นของเนื้อหาสาระแบ่งออกเป็น 4 บท คือ ทีฆราคม มัธยมาคม สังยุกตาคม เอโกตตราคม อยู่มาวันหนึ่งหลังจากพระเถระแสดงธรรมที่พระวิหารเสร็จแล้ว ก็กำชับให้ศิษย์ทุกคนอ่านดูให้ละเอียด ตรึกตรองให้ดี พอวันรุ่งขึ้นกุมารชีพก็ท่องให้อาจารย์ฟัง และยังอธิบายถึงความเข้าใจในพระธรรมที่เพิ่งเรียนมา พระเถระเปลื้มใจในอัจฉริยภาพของกุมารชีพ พร้อมถ่ายทอดพระสูตรทีฆราคมให้อีกบทหนึ่งด้วย

  罗什学习非常刻苦,他在众弟子中年龄最小,去聪明过人,常常提出问题与师兄讨论,直到彻底明白为止。盘头达多非常喜欢罗什,他认为罗什神奇俊秀,是佛教的瑰宝。罗什的名字很快传播开来,连国王也知道了。

กุมาร ชีพศึกษาอย่างมานะบากบั่น ท่านเป็นคนอายุน้อยที่สุดในจำนวนศิษย์ทั้งหมดแต่ฉลาดปราดเปรื่องกว่าคนอื่น มักจะหยิบยกปัญหามาวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกันศิษย์พี่เป็นประจำ จนกระทั่งเข้าใจแจ่มแจ้งจึงจะยุติ พระเถระชมชอบกุมารชีพเป็นพิเศษ และถือว่าความอัศจรรย์และสติปัญญาอันดีงามของกุมารชีพ เป็นอัญมณีอันล้ำค่าของพุทธศาสนาชื่อเสียงของกุมารชีพแพร่ออกไปอย่างกว้าง ขวางรวดเร็ว แม้แต่กษัตริย์ของกุภานก็ทรงทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี

  一次,国王和盘头达多又谈到罗什。正好有几位外道论师途经?宾国,在与国王的言谈中,颇有对佛教不敬之意。国王正想找人难一难这些外道论师,盘头达多就提议让弟子中辩才最好的罗什与他们辩论。盘头达多对罗什的才华成竹在胸,请国王颁令。   อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่กษัตริย์กุภานทรงสนทนากับพันโธเทวทัตเถระ ก็ได้พูดถึงกุมารชีพ พอดีช่วงนั้นมีนักบวชต่างศาสนาหลายท่านเดินทางผ่านมายังแคว้นกุภาน ระหว่างที่บรรดานักบวชสนทนาธรรมกับพระองค์อยู่นั้น ก็มีท่าทีกิริยาไม่ค่อยเคารพต่อพุทธศาสนา พระองค์กำลังเสาะหาผู้สันทัดมากำราบนักบวชเหล่านี้อยู่ พระเถระจึงเสนอให้กุมารชีพผู้มีฝีปากในการโต้คารมเปิดอภิปรายกับนำบวชเหล่า นั้น พระเถระเชื่อมั่นในอัจฉริยภาพและความสง่างามของกุมารชีพ จึงกราบบังคมทูลขอให้พระองค์ทรงมีรับสั่งนัดเปิดอภิปราย

   外道论师们和罗什等几位法师都被请进了宫。国王对外道论师说:“我们有位法师要向你们请教。”几位外道论师笑到:“那好,如能辩赢我们,我们就情愿皈依 佛门。”国王笑了笑,没有回答。外道论师又问:“请问国王,想要跟我们辩论的法师是那位?”国王指了身边的鸠摩罗什道:“就是这位法师。”“原来是位乳臭 未干的孩子呀!”外道论师放肆地笑了起来。

นัก บวชฝีปากกล้าต่างศาสนาเหล่านั้น พร้อมทั้งกุมารชีพและธรรมาจารย์อีกหลายรูปได้รับนิมนต์เข้าไปในพระราชวัง พระองค์ทรงมีปฏิสันถารกับนำบวชเหล่านั้นว่า “ข้าพเจ้ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งต้องการคำชี้แนะจากทุกท่าน”นักบวชหัวเราะและบอก ว่า “ก็ดีสิหากสามารถอภิปรายชนะพวกเรา พวกเราก็จะยอมนับถือศาสนาพุทธทั้งกายและใจ” พระองค์ทรงแย้มสรวลไม่ตรัสอะไร นักบวชทูลถามอีกว่า “ผู้ใดที่จะมาอภิปรายกับพวกเรา” พระองค์ทรงชี้มายังกุมารชีพซึ่งยืนยิ้มอยู่ข้างพระวรกาย และว่า “ก็คือสามเณรรูปนี้ เป็นเด็กทารกซึ่งยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่เอง” นักบวชทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยหยันอย่างกำเริบเสิบสาน

   辩论会开始了,国王亲自主持。外道中一个较为年长的提了两个问题,罗什不慌不忙,语气清楚,有条有理地加以回答。聪明的罗什也提出几个问题,请对方回 答。刚才还目空一切的外道论师们见罗什讲得字字珠玑,头头是道,竟面面相觑,一时间张口结舌。罗什又指出了他们的肤浅无知。几位外道论师心悦诚服地皈依了 佛门。

การ อภิปรายเริ่มขึ้นโดยกษัตริย์กุภานทรงเป็นผู้เปิดอภิปรายด้วยพระองค์เอง ในหมู่นักบวชเหล่านี้มีท่านหนึ่งอายุค่อนข้ามาก ยกคำถามขึ้นมาถาม 2 เรื่อง กุมารชีพไม่ประหวั่นลนลานแต่อย่างไร กลับค่อยๆตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำและอธิบายอย่างแจ่มแจ้ง กุมารชีพผู้เฉลียวฉลาดถามคำถามกลับอีกหลายข้อเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามตอบบ้าง นักบวชฝีปากกล้าเหล่านั้นเมื่อฟังกุมารชีพตอบโต้ทุกอย่างด้วยเหตุผลและสติ ปัญญา ก็คลายความเย่อหยิ่งอวดดีก่อนหน้านี้ ต่างจ้องมองซึ่งกันและกันอย่างอับจนถ้อยคำ กุมารชีพชี้ถึงความเข้าใจของท่านเหล่านั้นว่ายังตื้นเขิน จนท่านเหล่านั้นต้องยอมเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ น้อมรับพุทธศาสนาด้วยความสมัครใจ

  罽宾国王亲眼看到了罗什的精彩辩论,很是佩服,觉得罗什为罽宾国争了光。他不顾罗什母子的反对,给予他们最好的供养,并派五名僧人和五名小沙弥为他们服务。耆婆推辞不了只得暂时接受下来。在罽宾国住了两年,罗什的学业有了很大的进步,他的名字在邻近的各国传扬开去。

       กษัตริย์กุภาน ทอดพระเนตรเห็นการอภิปรายที่เปี่ยมสีสันของกุมารชีพแล้วทรงให้ความเคารพ นับถืออย่างมาก พระองค์ทรงปลาบปลื้มที่กุมารชีพนำชื่อเสียงมาสู่แว่นแคว้น จึงไม่คำนึว่าองค์หญิงแม่ลูกจะปฏิเสธหรือไม่ ทรงจัดให้มีการอุปถัมภ์รับรองอย่างดีเลิศพร้อมรับสั่งให้พระสงฆ์ 5 รูป และสามเณรอีก 5 รูปมาคอยปรนนิบัติ องค์หญิงไม่สามารถปฏิเสธได้จึงต้องยอบรับข้อเสนอนี้ สองแม่ลูกได้พักอาศัยอยู่เมืองกุภานเป็นเวลา 2 ปี และการศึกษาของกุมารชีพก็รุดหน้าเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของกุมารชีพเลื่องลือออกไปยังแว่นแคว้นใกล้เคียง

   耆婆感到盛名厚禄对罗什没有什么好处,拒绝了不少邻国对罗什的尊贵聘请。罗什对母亲所做的一切,充满信赖与敬意。一天母亲对罗什说:“你在此已经学有所 成,这里供养太好,再住下去已经不合适,不如返回龟兹国吧。”盘头达多也对罗什说:“我所有的知识都传给你了,你要深造,只得另请高人。”

องค์ หญิงฉีผอรู้ลึกว่าการมีชื่อเสียงโด่งดังได้รับการเอื้อเฟื้ออันบริบูรณ์เช่น นี้ ไม่เป็นผลดีต่อกุมารชีพแต่อย่างใด ทรงปฏิเสธการเชื้อเชิญอันทรงเกียรติของแว่นแคว้นข้างเคียงกุมารชีพเข้าใจถึง เหตุผลที่พระมารดาต้องทำเช่นนี้ จึงมีความเชื่อมั่นและเคารพพระมารดามากขึ้น วันหนึ่งองค์หญิงตรัสกับกุมารชีพว่า “เจ้าอยู่ที่นี่ก็ได้วิชาความรู้ระดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ให้การปรนนิบัติดีเกินกว่าที่พวกเราควรได้รับ เรากลับแคว้นกุฉากันเถอะ” พันโธเทวทัตเถระ ก็บอกกับกุมารชีพว่า  “วิชาความรู้ของอาตมาทั้งหมดก็ถ่ายทอดให้สิ้นแล้ว หากเจ้าจะศึกษาขั้นสูงต่อไปอีก จะต้องหาผู้มีปัญญาความสามารถสูงส่งคนใหม่”

 

 

 

กลับสู่มาตุภูมิ

 

 

 

 

 

 

 

         

          

     

          

                          

                 

  十二岁的鸠摩罗什和母亲踏上了回国之路。他们非常想念祖国。可是回国后,去发现国内竟无人超过鸠摩罗什。人人纷纷向罗什求教,而罗什自己竟不知想谁学习。于是他们打算再次走出国门,去寻找道行高深的大师。上次到?宾国是从龟兹向西而行,这次是向东而行。  กุมารชีพมีอายุเพียง 12 ปี ได้เดินทางกลับแคว้นกุฉาพร้อมพระมารดา สองแม่ลูกคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนมาก แต่เมื่อกลับมาถึงแคว้นกุฉา กลับพบว่าคนในเมื่อกุฉาไม่มีผู้ใดมีวิชาเหนือกว่ากุมารชีพเลย มีผู้คนมาขอศึกษาอยู่เป็นประจำ กุมารชีพเองไม่ทราบจะศึกษาต่อกับใคร เมื่อสองแม่ลูกตรองดูแล้วก็เดินทางออกจากกุฉาอีกครั้ง แสวงหาอาจารย์ที่มีความรู้ลึกล้ำเพื่อกาศึกษาต่อไป ครั้งที่แล้วไปแคว้นกุภาน ซึ่งเป็นการเดินทางไปทางทิศตะวันตก ในครั้งนี้จึงเลือกเดินทางไปทิศตะวันออก

   一天,罗什母子在路上遇见一位相貌非凡的高僧。这位高僧郑重地对耆婆说:“小沙弥非等闲之辈,你要小心守护他。要是到了三十五岁他仍没破戒,那他一定会 向阿育王时的优波掬多法师一样度人无量,万事齐名。”他停了停又说:“假使他的戒行不全虽然成就较底,但仍是一位兴隆佛法、多才多艺的佛教的中流砥石。” 母子俩把高僧的话记在心里。วัน หนึ่งขณะอยู่ระหว่างทาง สองแม่ลูกได้พบกับธรรมาจารย์ผู้มีสง่าราศีพิเศษรูปหนึ่ง ท่านได้พูดเน้นกับองค์หญิงว่า “สารเณรน้อยรูปนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ท่านต้องคอยระวังปกป้องเขาให้ดี หากอายุได้ 35 ปีแล้วยังไม่ละเมิดศีล เขาจะเป็นเช่นท่านอุปคุตเถระ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่โปรดมวลสรรพสัตว์มีชื่อเสียงเลื่องลือชั่วนิรันดร์” ท่านหยุดสักครู่จึงพูดต่อว่า “แม้หากการถือศีลของเขาจะไม่สมบูรณ์ แม้ความสำเร็จจะค่อนข้างต่ำแต่ก็ยังคงเป็นผู้ที่ทำให้พุทธธรรมเฟื่องฟู เขามีสติปัญญาความสามารถทั้งศาสตร์ศิลป์เปรียบเสมือนหินลับมีดของศาสนาพุทธ ในช่วงกึ่งพุทธกาล” สองแม่ลูกได้จดจำคำพูดของพระธรรมมาจารย์ไว้ในใจ

  罗什母子到达月氏(今甘肃中部和青海东境接壤的一带)后,云游了一段时间,又改变方向,翻过绵亘不段的高山,穿越茫茫无际的沙漠,跋涉深浅莫测的沼泽,到达沙勒国(今新疆西部地区),在一座寺院里挂单。 เมื่อองค์หญิงแม่ลูกมาถึงแคว้นปาเถียน (แถบกันซู่ และชิงไห่ในปัจจุบัน) ได้ท่องธุดงค์ไปทั่วทุกแห่งหนอยู่ระยะหนึ่ง ก็เปลี่ยนทิศทางใหม่โดยผ่านขุนเขาสูงยาว ทะเลทรายอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ตลอดเส้นทางต้องเดินทางอย่างลำบาก ข้ามน้ำข้ามลำธารที่มีขนาดและความลึกต่างกัน จนมาถึงแคว้นสาละ (แถบซินเจียงตะวันตกเฉียงใต้ปัจจุบัน) จึงได้เข้าพักค้างแรมที่วัดแห่งหนึ่ง

   鸠摩罗什虽然比别的孩子聪明懂事,但毕竟年纪还小,有时候也难免淘气好玩。有一天,他看见院子里有一只大佛钵,觉得好玩,便跑过去,兴致勃勃地把它举起来顶在头上。  แม้กุมารชีพจะฉลาดกว่าเด็กทั่วไป แต่ในความเป็นเด็กที่บางครั้งก็อยากเล่นซุกซน วันหนึ่งท่านเห็นบริเวณลานวัดมีพาตรพระใหญ่ลูกหนึ่งรู้ลึกอยากเล่น จึงวิ่งไปยกบาตรพระนั้นขึ้นมาเทินเล่นบนศีรษะตนเองอย่างสนุกสนาน

  罗什突然想起:“这么重的铁钵我怎么就轻而易举地拿起来顶在头上也不觉得重呢?”此念一生,鸠摩罗什顿时觉得铁钵重得不得了,压得头顶都快破裂。他站立不稳了,身体向前倾斜,铁钵‘哐当’一声掉在低上。 ขณะนั้น กุมารชีพฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า “บาตรเหล็กหนักเช่นนี้ ทำไมจึงยกขึ้นมาเทินบนศีรษะได้ง่ายดายโดยไม่รู้ศึกหนักเลย” พลันที่มีความคิดเช่นนั้น กุมารชีพก็รู้สึกว่าบาตรเหล็กช่างหนังอึ้ง กดทับจนศีรษะแทบแตกระเบิด ท่านยืนโคลงเคลงทรงตัวไม่มั่น ร่างกายเอนไปข้างหน้า ทำให้บาตรเหล็กตกกระแทกพื้นเสียงดัง โครม

  罗什想把铁钵放回原处,却怎么也搬不动。他眨巴着眼睛,忽然心有所悟:“哦!一定是我对佛钵有大小,轻重的分别念头,所以佛钵就有轻重了!”从此他深深体会到了万物与人的意念有着密切关系。กุมาร ชีพคิดจะยกบาตรเหล็กนั้นกลับมาเทินศีรษะอีก แต่จะยกอย่างไรก็ยกไม่ขึ้น ได้แต่กระพริบตากลมโต จิตใต้สำนึกรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า “โอ เป็นเพราะเรามีความคิดเกี่ยวกับความแตกต่างของขนาดใหญ่เล็กและหนักเบาของ บาตรเหล็ก บาตรพระจึงมีน้ำหนักที่เป็นจริงตามวัตถุขึ้นมา นับแต่นั้นกุมารชีพจึงเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าสรรพสิ่งในโลกมีความเกี่ยวโยง ลึกซึ้งกับความนึกคิดของมนุษย์

  罗什母子在寺院里住了十多天后,告别寺僧,在沙勒国各地求佛问法。其时正值隆冬,沙勒国冰封雪盖,母子俩不畏严寒饥饿时就托钵乞食;没有寺院挂单,就在野外自搭帐篷过夜。就这样,他们在沙勒国结实了不少有名的高僧。 องค์หญิงแม่ลูกพำนักอยู่ในวัดสิบกว่าวันก็กราบลาพระในวัด และจาริกไปตามวัดวาอารามหลายแห่งในแคว้นสาละเพื่อศึกษาค้นคว้าพระธรรม เวลานั้นพอดีเป็นฤดูเหมันต์ที่หนาวจัด ทั่วแคว้นสาละปกคลุมไปด้วยหิมะ สองแม่ลูกต่างไม่ย่นย่อต่อความหนาวเหน็บ ยามหิวกระหายก็ถือบาตรออกภิกขาจาร ไม่ได้พำนักที่วัดวาอารามกางกระโจมพักแรมอยู่นอกเมือง ใช้ชีวิตเยี่ยงนี้อยู่ระยะหนึ่ง ทำให้มีโอกาสได้รู้จักพระธรรมาจารย์หลายๆท่านในแคว้นสาละ

  一次罗什在沙勒国王城附近的一座名寺挂单。母子俩已多日奔波,十分疲惫。这一天,沙勒国的喜见法师见有个挂单的小沙弥在读经,变与他交谈起来,方知这位云游的沙弥正是鸠摩罗什。喜见法师见罗什议论精辟,阐述透彻,十分赏识,便进宫面奏国王,建议国王请罗什讲经说法。 องค์หญิงได้พักค้างคืนในวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ใกล้เมืองหลวงของแคว้นสาละ สองแม่ลูกเหน็ดเหนื่อยจาการลำบากตรากตรำมาหลายวัน วันหนึ่งปิยะทัสสีเถระของแคว้นสาละ ได้เห็นสามเณรที่มาพำนักที่วัดนี้กำลังอ่านหนังสือธรรมะ ก็เข้าไปพูดคุยด้วยจึงทราบว่าสามเณรที่อยู่เบื้องหน้า คือกุมารชีพที่จาริกศึกษาหลักธรรม จากการสนทนาธรรมเห็นถึงความรอบรู้ ความสามารถในการวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างละเอียดแจ่มแจ้งรู้สึกชื่นชอบเป็น อย่างยิ่ง จึงเข้าวังนำความไปกราบบังคมทูลกษัตริย์สาละ เสนอให้นิมนต์กุมารชีพมาแสดงธรรม กษัตริย์สาละทรงเห็นด้วยกับข้อเสนอของปิยะทัสสีเถระ

   国王同意了喜见的提议。再说国王近来正为龟兹国的邦交陷入僵局而发愁。见罗什是龟兹国王的外甥,请罗什讲经说法,不但对本国沙门是一个鞭策,而且将来有 利于两国邦交的正常化。国王发出告示,国内信徒从四面八方涌来。罗什开始讲解《转法轮经》,他讲得实在太好了。讲解完毕,欢呼声响彻整个大厅,轰动了沙勒 国。กล่าว ถึงกษัตริย์สาละ ทรงกลัดกลุ้มพระทัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นสาละกับกุฉา ซึ่งตกอยู่ในสภาพเย็นชาต่อกัน ทรงคิดได้ว่ากุมารชีพเป็นพระราชนัดดาของแคว้นกุฉา หากนิมนต์กุมารชีพแสดงธรรม ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความรู้พระธรรมแก่ผู้คนในแคว้นสาละ ยังเป็นประโยชน์ในการประชับสัมพันธ์ระหว่างแคว้นให้กลับคืนสู่สภาพเดิม กษัตริย์สาละจึงทรงประกาศให้พุทธศานิกชนทุกสารทิศมาประชุมฟังธรรมโดยพร้อม เพรียง กุมารชีพเริ่มเทศนา “ธัมมจักปัปปวัตตนสูตร” เมื่อเทศน์จบ เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญก็ดังกึกก้องทั่วห้อง ทำให้ชื่อเสียงของกุมารชีพเลื่องลือไปทั่วแคว้าสาละ

  龟兹国王白纯得知外甥在沙勒国受到特别尊重,前嫌尽释,派遣使臣携带贵重礼物前往沙勒国。沙勒国王亲自出宫相迎。两国达成协议,恢复了邦交。童年时代的罗什就为祖国立了功。กษัตริย์ ไปฉุน แห่งแคว้นกุฉา ทรงสดับเรื่องที่กุมารชีพซึ่งเป็นพระราชนัดดาได้รับการต้อนรับอย่างสูง เกียรติจากกษัตริย์แห่งแคว้นสาละ ความหมางใจในอดีตก็ยุติลงอย่างสิ้นเชิงทรงมีรับสั่งให้ส่งราชทูตนำบรรณาการ อันมีค่าไปถวาย กษัตริย์แห่งแคว้นสาละเสด็จออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง กุมารชีพและพระมารดาซึ่งกำลังสนทนาธรรมกับข้าหลวงใหญ่อยู่ในวังก็ร่วมออกมา ต้อนรับ ทั้งสองแคว้นได้ฟื้นฟูสัมพันธ์ไมตรีขึ้นใหม่ กุมารชีพสามารถสร้างคุณประโยชน์แก่มาตุภูมิทั้งๆที่ยังเยาว์วัย

  罗什在沙勒国举行法会以后,受到王子的赏识,常常被请进王子的宫中。当时有位佛学大师佛陀耶舍正受王子的供养,他学识渊博,对学问不偏不执于一端,为人坦率;罗什也是性情坦白的人,两人便成了知交。

            หลังจากที่กุมารชีพเปิดการแสดงธรรมที่แคว้นสาละ ได้รับความชื่นชอบจากพระราชโอรสของกษัตริย์แคว้นสาละและนิมนต์เข้าวังบ่อย ครั้ง เวลานั้นพระเถระท่านหนึ่งชื่อ พุทธยศะ ซึ่งได้รับการอุปถัมภ์จากพระราชโอรส เป็นผู้ทีมีความรู้ลึกซึ้งเปิดกว้าง ไม่ยึดติดในความรู้และทิฏฐิของตน เป็นคนเปิดเผย ซึ่งกุมารชีพก็มีนิสัยเปิดเผยจริงใจเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงครบหาเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน

 

  鸠摩罗什受佛陀耶舍的影响,对外道典籍也发生了浓厚的兴趣,他在研读佛经之余,攻读了婆罗门教的经典《吠陀》和有关“五名”(声明、工巧明、医方明、因明、内明)的著作甚至阴阳星算的书籍。他的见解是:他山之石。可以攻玉;知己知彼,才能更显真理的光明。  กุมารชีพได้รับอิทธิพลจากพุทธยศะเถระ จึงสนใจตำรับตำราของศาสนาอื่น นอกเหนือจากการค้นคว้าด้านพุทธธรรม กุมารชีพศึกษาคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์ และคัมภีร์ปัจวิทยา ศัพทวิทยา ศิลปกรรมสถานวิทยา จิกิตสาวิทยา เหตุวิทยา อัธยาตมวิทยา แม้กระทั่งตำราเกี่ยวกับการคำนวณดาราศาสตร์ ความเป็นของกุมารชีพคือ “การได้รับคำชี้แนะจากผู้อื่น เสมือนได้รับการช่วยเหลือที่สูงค่า รู้เรารู้เขา จึงจะแสดงออกได้ชัดเจนถึงความสว่างไสวของสัจธรรม”

  他在大量阅读这些经典的过程中,虚心请教精通这些经典的学者。他在?宾国时就初步掌握了天竺的语言文字,现在,他对其更是运用自如了。 ระหว่างที่กุมารชีพกำลังอ่านตำราอย่างขะมักเขม้น ท่านมักจะขอคำชี้แนะจากผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญตำราเหล่านี้อย่างอ่อนน้อมถ่อม ตน สมัยที่ท่านอยู่ที่แคว้นกุภานก็ได้ศึกษาภาษาภารตะเป็นพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว เวลานี้กุมารชีพสามารถเข้าใจและใช้ภาษาภารตะได้อย่างคล่องแคล้ว

  沙勒国是一个在学术文化和宗教信仰上都能够兼收并蓄的国家,是南北、东西的交通枢纽,可南入天竺,北达龟兹,西面是大月氏,往东可经莎车到达流行大乘教的于阗国。   แคว้นสาละ เป็นเหล่งรวมวัฒนธรรมทางวิชาการ ความเชื่อทางศาสนา และเป็นเมืองสำคัญของการคมนาคมทั้งทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก คือแคว้นกุษาณทางทิศตะวันออก เมื่อผ่านแคว้นยารกานด์ ก็จะถึงแคว้นกุสตนะหรือโขตาน ที่นิกายมหายานกำลังแพร่หลายอยู่

 

           

ศึกษามหายาน

    

           

         

           

          

 

         

          

           

          

          

           

          

         

          

        

         

 

 

   沙勒国信仰佛教的国人非常多,国王和王子都皈依三宝。不论是南部?宾和北部龟兹的小乘佛教,还是于?国的大乘佛教,都能被接受。于是在沙勒国形成了各佛 教派别相互并存的局面。国王曾颁诏举行千僧会,来自全国和邻近各国的僧人云集王城大寺,在国王的主持下,谈经论法,展开辩论,非常隆重而热烈。ประชาชน ในแคว้นสาละส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แม้กระทั่งกษัตริย์สาละและพระราชโอรสก็ล้วนบูชาพระรัตนตรัย แม้ว่าแคว้านกุภานทางใต้ และแคว้นกุฉาทางเหนือจะนับถือหินยาน ส่วนแคว้นกุสตนะนับถือนิกายมหายาน แคว้นสาละก็ไม่ได้แบ่งแยกนิกาย ยอมรับได้ทั้งสิ้น ดังนั้นภายในแคว้นสาละจึงมีต่างนิกายดำรงอยู่คู่กันมา กษัตริย์สาละทรงมีรับสั่งให้จัดการชุมนุมคณะสงฆ์ขึ้น มุนีพระสงฆ์ทรงศีลจากทั่วสารทิศทั้งประเทศมาร่วมชุมนุมกันที่วัดใหญ่แห่ง หนึ่งในเมืองหลวง ภายใต้อุปถัมภ์ของกษัตริย์สาละทำให้ทุกฝ่ายสามารถแลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกัน ด้วยบรรยากาศคึกคัก

   在沙勒国这个思想文化都十分宽松的国度里,罗什具备了海纳百川的胸怀和气魄。不久罗什又遇到莎车王子须利耶跋陀、参军王子须利耶苏摩兄弟俩。二位都是不 为名位所动的佛教界高人,转习大乘佛教,尤其是弟弟苏摩,更是哥哥和大乘学者之师。罗什怀着强烈的求知欲,拜苏摩为师,学习大乘。   แคว้นสาละ เป็นแคว้นที่เปิดกว้างทั้งใดด้านความคิดและวัฒนธรรม กุมารชีพเป็นผู้ที่มีจิตใจกว้างขวางเพียบพร้อมทุกอย่าง ดั่งทะเลเป็นศูนย์รวมของร้อยสายธาร ไม่นานกุมารชีพก็ได้พบกับเจ้าชายแคว้นยารกานด์นามว่า สูรยภัทระ กับเจ้าชายแห่งชานจวินนามว่า สูรยโสมะ ทั้งสองเป็นพี่น้องซึ่งมีความรู้ทางพุทธศาสนา ไม่หลงใหลทางโลก มุ่งบำเพ็ญนิกายมหายานโดยเฉพาะเจ้าชาโสมะผู้น้อง เป็นทั้งอาจารย์ของพระเชษฐาและผู้ศึกษานิกายมหายาน ด้วยกุมารชีพมีจิตใจตั้งมั่นในการศึกษาอย่างแรงกล้า จึงคารวะเจ้าชายโสมะเป็นอาจารย์เพื่อศึกษานิกายมหายาน

  苏摩告诉罗什:“我们修习大乘佛法,不仅是为了自己消除烦恼,超脱生死,更是为了普救天下众生。你要记住。”罗什把老师的话牢牢记在心中。可是对于大乘佛学“一切皆空”的理论,罗什一时还不能理解。  เจ้าชายโสมะรับสั่งกับกุมารชีพว่า “การบำเพ็ญมหายานธรรมไม่เพียงเป็นการให้ตัวเองขจัดทุกข์ หลุดพ้นการเกิด การตาย ยังเป็นการโปรดสรรพสัตว์ในโลกด้วย จงจำให้ดี” กุมารชีพจดจำคำพูดของอาจารย์ไว้อย่างดี แต่ความเชื่อของมหายานที่ว่า”สรรพสิ่งคือความว่างเปล่า” นั้น กุมารชีพยังไม่สามารถเข้าใจถึงความหมายนี้ได้อย่างถ่องแท้

   苏摩告诉他:“你是个绝顶聪明的孩子,只是一直无缘接触大乘佛教。大乘经典所说的一切皆空,绝非虚妄。”    เจ้าชายโสมะ ทรงตรัสกาบกุมารชีพว่า “เจ้าเป็นเด็กที่มีไหวพริบเฉลียวฉลาด เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับมหายาน คัมภีร์ของนิกายมหายานกล่าวว่า สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า ย่อมไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่แท้”

  鸠摩罗什一头钻进大乘经典之中,把大小乘经典拿来进行深入研究,反复对照,相互比较,才彻底信服苏摩所说的“空”是非常有道理的。他恍然大悟:“我以前学小乘犹如一个不识黄金的人,把似金的石头当作宝贝一样啊。”   กุมารชีพมุ่งมั่นค้นคว้าเกี่ยวกับมหายาน ศึกษาเจาะลึกทั้งตำรามหายานและหินยานกลับไปกลับมาหลายครั้ง จนในที่สุดก็เขาใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เชื่อถือเลื่อมใสตามที่เจ้าชายโสมะได้ตรัสไว้ คำว่า “ว่างเปล่า” มีเหตุผลลึกล้ำจริงๆ รู้สึกตื่นฟื้นจากความงมงายทันที “แต่ก่อน อาตมาศึกษาหินยานเหมือนกาบคนที่ไม่รู้จักทองคำ ได้หินที่เหมือนทองคำกลับคิดว่าเป็นของมีค่า”

  苏摩待罗什对大乘理论有了初步认识之后,便向他传授《法华经》。此经是诸法之王,是释尊教法中的最高法门。苏摩与罗什从这部经的经义谈到对佛法的坚定信仰,谈到对佛法的大力宏扬,要求罗什担当起宏扬佛法的大任。罗什坚定地说:“我定以此为毕生使命。” เจ้าชายโสมะให้เวลากุมารชีพ ศึกษาหลักทฤษฎีพื้นฐานของมหายานได้แจ่มแจ้งดีแล้วก็ถ่ายทอดสัทธรรมปุณฑรี กสูตร ซึ่งเป็นยอดแห่งธรรมะ ถือเป็นธรรมชั้นสูงสุดที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศนา เจ้าชายโสมะกับกุมารชีพสนทนาแลกเปลี่ยนความหมายของธรรม ตลอดถึงความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพุทธศาสนา รวมทั้งการเผยแผ่ธรรมออกไปให้กว้างไกล เจ้าชายโสมะวอนให้กุมารชีพรับภาระเผยแพร่ธรรมแห่งพุทธศาสนานี้ กุมารชีพตอบรับอย่างหนักแน่นว่า “ศิษย์จะถือเป็นปณิธานอันยิ่งใหญ่ชั่วชีวิต”

  苏摩热情地握着罗什的手说:“你会成功的!”苏摩真不愧是一个目光远大的人,他使罗什由小乘转入大乘,帮助罗什在学业上翻开了崭新的一页;他为罗什指明了一条学以致用的道路,树立了毕生为之奋斗的目标。从此,罗什更加深入探讨大乘佛教理论。  เจ้าชายโสมะกุมมือกุมารชีพอย่างลิงโลดใจว่า “เจ้าต้องประสบความสำเร็จแน่” เจ้าชายโสมะทรงเป็นผู้มีสายพระเนตรกว้างไกลไม่เพียงทำให้กุมารชีพที่เสื่อม ใสนิกายหินยานกลับมาศรัทธานิกายมหายานแล้ว ยังช่วยพลิกโฉมหน้าใหม่ด้านการศึกษาให้กับกุมารชีพด้วย นอกจากนี้ เจ้าชายยังทรงชี้แนะหนทางให้กุมารชีพว่า เมื่อได้เรียนรู้แล้วให้นำไปใช้ โดยยึดเป็นเป้าหมายของชีวิต นับแต่นั้นมากุมารชีพก็ยิ่งศึกษาหลักทฤษฎีต่างๆ ของนิกายมหายานมากขึ้นไปอีก

   罗什日夜埋头研究大乘经典,终于通达了大乘空宗奥义。对于古印度龙树的《中论》、《十二门论》、古印度提婆的《百论》,他反复思考,彻底了解经文的玄妙 之处,后来又将它们译成汉文。到了隋唐间,《中论》、《百论》、《十二门》成为论宗的主要典籍,鸠摩罗什也被尊为三论总的祖师。     กุมารชีพพากเพียรศึกษาตำรามหายานทั้งวันทั้งคืนจนมีความช่ำชอง รู้ซึ้งได้โดยตลอดถึงความหมายลึกของคำว่า “ว่างเปล่า”ในนิกายมหายาน หลักธรรมมาธยมิกศาสตร์และทวาทศนิกายศาสตร์ของท่านนาคารชุน ซึ่งเป็นชาวชมพูทวีปแต่ครั้งโบราณ หลักธรรมศตศาสตร์ของท่านอารยเทพ กุมารชีพพิเคราะห์กลับไปมาหลายรอบ และเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งถึงความลึกซึ้งมหัศจรรย์ของคัมภีร์แต่ละฉบับ ภายหลังกุมารชีพได้แปลคัมภีร์เหล่านี้เป็นภาษาจีนในสมัย สุยถัง ชื่อว่า จงลุ่น ไป่ลุ่น และซือเอ้อเหมินลุ้น ตำราทั้ง 3 เล่านี้ถือเป็นตำราสำคัญของนิกายมาธยมิกะ กุมารชีพจึงได้รับยกย่องให้เป็นปฐมจารย์ของนิกายมารยมิกะด้วย

  鸠摩罗什在沙勒国游学一年,收获很大。耆婆感到罗什已经学有所成,应尽快地让他将大乘佛法传播到龟兹国去。不久他们母子告别沙勒国王和诸位师友,转道温宿,回龟兹国去。他们在温宿受到热烈欢迎,人们纷纷前来请罗什讲经说法。 กุมารชีพศึกษาวิชาอยู่ที่แคว้นสาละเป็นเวลาหนึ่งปีได้ความรู้มากมาย องค์หญิงฉีผอรู้สึกว่าความรู้ของกุมารชีพถึงพร้อมแล้ว จึงปรารถนาให้กุมารชีพเผยแผ่นิกายมหายานไปยังแคว้นกุฉโดยเร็ว ไม่นานองค์หญิงแม่ลูกจึงอำลากษัตริย์สาละ อาจารย์และเพื่อนฝูงบกลับสู่แคว้นกุฉา เมื่อผ่านเมืองอุนซู่สองแม่ลูกได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกและผู้คนต่าง นิมนต์กุมารชีพไปแสดงธรรมอย่างต่อเนื่อง

  温宿有个被称为“怪论师”的人,他熟读经书,颇有辩才,与他辩论的人都败在他的手下,因此他目空一切,以为自己天下第一,常常因为没有对手而气闷。这一天,“怪论师”听说罗什到了温宿国,竟迫不及待地敲击王鼓,向罗什挑战,并以头颅作赌注。   ที่เมืองอุนซู่ มีชายผู้หนึ่งมีฉายาว่า นักวิพากษ์พิสดาร เขาท่องอ่านตำรามากมายจนพอมีฝีปากในการโต้คารม ผู้ที่โต้คารมกาบเขามักพ่ายแพ้จึงไม่มีผู้ใดอยู่ในสายตาเขาเลย เขาคิดว่าตนเองเป็นที่หนึ่งในโลก มันอัดอั้นตันใจเสมอที่ไร้คู่ต่อสู้ วันหนึ่งนักวิพากษ์พิสดารได้ทราบข่าวการกลับมาเมืองอุนซู่ของกุมารชีพ รู้สึกร้อนรนจนทนไม่ไหว จึงไปย่ำตีกลองหน้าวัง ท้าสู้กับกุมารชีพพร้อมเอาศีรษะตนเองเป็นเดิมพัน

   按当时的规定,辩论的一方是有可能掉脑袋的,但罗什和他的母亲镇静地接受了挑战。“怪论师”与罗什面对面坐好。“怪论师”让罗什先发问。罗什也不推辞, 严肃地说到:“一切宇宙万物皆是因缘和合所生,空无自性;一切众生也没有一个实在的自我存在。如此,则如何求得解脱?解脱者又是谁呢?”“怪论师”茫然不 知所答,更无从辩论了,他惭愧地低下头,承认失败。 ตามข้อกำหนดให้เวลานั้น เมื่อเสร็จสิ้นการโต้คารม ฝ่ายใดที่พ่ายแพ้ศีรษะต้องหลุดจากบ่า กุมารชีพและมารดายอมรับการท้าทายอย่างมีสติและสงบนิ่ง นักวิพากษ์พิสดารนั้นประจันหน้ากับกุมารชีพ เขาเอ่ยปากให้กุมารชีพถามก่อน กุมารชีพไม่ปฏิเสธและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “สรรพสิ่งในจักรวาลก่อเกิดเพราะสันนิวาส เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันเพราะสรรพชีวิตปราศจากแก่นสารในตนเอง จึงไม่มีภาวะแท้จริงในตน เช่นนี้จะมีการหลุดพ้นได้ไฉน ใครเล่าเป็นผุ้หลุดพ้น” นักวิพากษ์พิสดารมืดมนไปแปดด้านปราศจากข้อโต้แย้งและก้มศีรษะยอมรับความพ่าย แพ้อย่างอับอาย

  “怪论师”也不食言,拔出腰刀就要自刎,却被罗什一把拉住。罗什耐心地启发他:“我之所以同你辩论,并非是为了你的什么誓言;只是为了让你了解佛理的博大精深。你的那些理论与佛理相比,犹如石头与金子......” นัดวิพากษ์พิสดารรักษาคำมั่นสัญญา เขาชักดาบจากเอวหมายจะเชือดคอตนเอง แต่ถูกกุมารชีพรั้งมือไว้และใช้ความอดทนชี้แจงว่า “อาตมาเพียงต้องการอภิปรายกับท่าน ไม่ใช่เพราะคำท้าทายสาบานแต่อย่างใด เพียงต้องการให้ท่านเข้าถึงความลึกล้ำไพศาลของพุทธธรรม ทฤษฎีของท่านหากนำมาเปรียบกับพุทธธรรมก็เหมือนก้อนหินกับทองคำ

  “怪论师”心里充满感激和敬佩,他翻身下拜,再三请罗什收他做徒弟,并说:“师傅若不答应,我就死在你的脚下。”罗什只得答应下来,罗什以教训的口吻告诫他学问宽广无边,不能坐井观天,自以为是。  นักวิพากษ์พิสดารรู้สึกตื้นตันและนับถือ จึงก้มกราบวิงวอนครั้งแล้วครั้งเล่า ให้กุมารชีพรับตนเป็นศิษย์ พร้อมกล่าวว่า “หากอาจารย์ไม่ตอบรับก็จะขอตายต่อหน้าแทบเท้าท่าน” กุมารชีพจึงจำต้องตอบรับพร้อมกล่าวตักเตือนให้มีสติว่า “วิชาความรู้นั้นเป็นสิ่งกว้างไกลไร้ขอบเขต ไม่ใช่นั่งอยู่ในบ่อมองท้องฟ้าแล้วคิดว่าตัวเองนั้นวิเศษสุด”

  围观的人见刚才还那么不可一世的人一下子竟像个求救的小羔羊,都深深地感动了,人民将此事广为传扬,邻近几个国家对“怪论师”心怀不满的人也感到罗什为他们争了口气,罗什受到格外的尊敬,皈依佛门的人也多了起来。龟兹国王白纯亲自到温宿迎接罗什母子。       ผู้คนที่ล้อมดูอยู่นั้น ได้เห็นผู้ที่ตลอดชีวิตไม่เคยยอมแพ้ใครง่ายๆ กลับอ้อนวอนเหมือนลูกแกะร้องขอชีวิต ทำให้ผู้คนที่เห็นตื้นตันใจมาก ข่าวนี้ได้แพร่ออกไปถึงแคว้นข้างเคียงผู้ที่ไม่ชอบพฤติกรรมของนักวิพากษ์ พิสดารอยู่แล้ว รู้สึกสะใจที่กุมารชีพสามารถสยบนักวิพากษ์พิสดารผู้นั้นได้ กุมารชีพจึงยิ่งได้รับความเคารพนับถือเป็นพิเศษ ทำให้มีผู้ศรัทธานับถือพุทธศาสนามากขึ้น กษัตริย์ไป่ฉุนของแคว้นกุฉาเสด็จมาเมืองอุนซู่เพื่อต้อนรับองค์หญิงสองแม่ ลูกกลับแคว้นกุฉาด้วยตนเอง

 

  

ประกาศธรรมะมหายาน

         

         

       

        

          

         

      

          

        

          

                    

ศาลาเจดีย์บรรจุอัฐิท่านกุมารชีพ

  罗什母子回国后,国王经常举办法会,听者如潮水般地涌进国王新建的伽蓝寺。罗什或演讲、或回答听众的问题,对学者提出的难题做解答,有时也展开辩论。他的演讲与风采,使与会者心服口服,声望一天比一天高。

            เมื่อองค์หญิงสองแม่ลูกกลับถึงบ้านเกิดเมืองนอนแล้ว กษัตริย์ไป่ฉุนโปรดให้เปิดการแสดงธรรมบ่อยครั้ง ผู้แสวงธรรมเดินทางหลั่งไหลดุจกระแสน้ำมายังวัดสังฆารามที่พระองค์เพิ่งทรง สร้างเสร็จ กุมารชีพแสดงปาฐกถา ตอบคำถามของผู้เข้าฟังธรรม และตอบข้อสงสัยแก่นักปราชญ์ต่างๆ บางครั้งก็จัดอภิปรายบ้าง ภาพลักษณ์ยามแสดงธรรมและสง่าราศีของกุมารชีพทำให้คนที่ร่วมประชุมต่างยอม ศิโรราบทั้งกายใจ ชื่อเสียงของกุมารชีพนับวันก็ยิ่งทวีขึ้น

 

   白纯国王有个女儿削发为尼,名叫阿*耶末帝。罗什担心龟兹国一直流行小乘佛教,信徒对大乘佛教一时无法接受,便先说法给这位表妹听。表妹听得着了迷,请 师父为罗什举行法会,专讲大乘佛法。罗什为大众讲解万法皆空无我,五阴十八界都是假名而非实有的道理,信徒们顿觉耳目一新。พระ ธิดาของกษัตริย์ไป่ฉุน ทรงพระนามว่าอักษยมติ ปลงพระเกศาบวชเป็นชี กุมารชีพเป็นห่วงว่าพุทธศาสนิกชนจะไม่ยอมรับนิกายมหายานในเวลาอันสั้น เพราะแคว้นกุฉาแต่ไหนแต่ไรมาล้วนนับถือนิกายหินยาน จึงเริ่มแสดงธรรมให้น้องสายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องฟังก่อน พระธิดาสนพระทัยฟังเทศน์จนเกิดความศรัทธายิ่ง ทรงขอร้องอาจารย์ของพระองค์ให้ช่วยจัดแสดงธรรม เพื่อกุมารชีพจะได้มีโอกาสแสดงหลักธรรมนิกายมหายาน กุมารชีพพูดอธิบายให้มหาชนฟังเกี่ยวกับความว่างจากแก่นสารของสรรพสิ่ง ปัญจขันธ์อัฏฐารสธาตุ ล้วนเป็นเพียงชื่อหาใช่ความจริงไม่ ทันใดนั้น ผู้ฟังทั้งหลายต่างรู้สึกทันทีว่าได้ยินและได้พบความรู้ใหม่ๆ

  回国之后,又过了几年,罗什在王宫受具足戒,成为正式比丘。这年,他二十岁。  หลังกลับมาอยู่แคว้นกุฉาหลายปี กุมารชีพได้เข้าประกอบพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่ถูกต้องตามพุทธวินัย เมื่ออายุ 20 ปีบริบูรณ์

    罗什已经是一位知名的佛学大师了,但他仍孜孜不倦地学习,永远不满足。过去因为是小沙弥,所受戒律管束并不太严;现今已成为正式比丘,他便跟随卑摩罗叉律 师学习《十诵律》,以通晓戒律,用来规范自己的行动。  ถึงแม้กุมารชีพจะเป็นอาจารย์แห่งพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ แต่ท่านก็มุ่งมั่นเรียนรู้อย่างไม่ย่อท้อ อย่างไม่รู้สึกอิ่ม เมื่อก่อนเป็นเพียงสามเณรกฎวินัยยังไม่เข้มงวดนัก แต่เวลานี้เป็นพระภิกษุที่สมบูรณ์แล้ว จึงต้องศึกษาทศภาณวาร กับท่านอาจารย์วิมลักษะเรียนรู้เกี่ยวกับศีลข้อต่างๆ เพื่อเป็นมาตรฐานในการควบคุมความประพฤติให้กับตนเอง

  这一年,龟兹国遭逢大旱,国势日趋衰败,人民陷于饥谨之中,耆婆担心发生战乱,想带罗什去天竺求法深造。        อยู่มาปีหนึ่ง แคว้นกุฉาประสบปัญหาแห้งแล้ง สถานะของประเทศนับวันยิ่งเสื่อมถอย พสกนิกรเผชิญภาวะข้าวยากหมากแพง องค์หญิงฉีผอทรงกังวลว่าจะเกิดศึกสงคราม จึงทรงคิดจะพากุมารชีพออกไปเดินทางศึกษาต่อยังชมพูทวีป

  罗什在母亲的护翼下长大成人,他的心愿是要把大乘佛法宏扬到东土中国。如若随母亲远走天竺,这一志愿将永无实现之日,还会辜负老师的谆谆嘱托。他请母亲原谅自己不能尽孝,在亲情与佛法之间,原则了佛法。 กุมารชีพเติบโตภายใต้การดูแลปกป้องของพระมารดา ความหวังของกุมารชีพคือต้องการทำให้นิกายมหายานได้เผยแพร่ไปถึงประเทศจีน หากร่วมทางกับพระมารดาไปชมพูทวีปเจตจำนงก็ไม่มีวันบรรลุ ทั้งยังเป็นการเนรคุณต่ออาจารย์โสมะ ที่พร่ำฝากฝังให้เผยแพร่พระธรรมให้ไพศาล กุมารชีพขอพระมารดาให้อภัยที่เขาไม่สามารถเป็นลูกกตัญญูที่ดีพร้อม ระหว่างความรักที่มีต่อบิดามารดาและพระธรรมแห่งพุทธศาสนาแล้ว เขาเลือกพระธรรม

   母亲是深明大义的人,然而中国是个陌生而遥远的国土,她担心地说:“到中国去弘扬大乘佛法的确非你莫属,只是我担心你孤身一人,困难重重啊!”罗什向母 亲表示:“菩萨学道是为了利益众生,如今我能弘扬大乘佛教,使众生开悟,哪怕要我身受炉镬的苦难,我也在所不惜,决不退缩。”    แม้องค์หญิงฉีผอจะทรงเข้าใจเหตุผลดี ทว่าประเทศจีนเป็นดินแดนแปลกใหม่และแสนห่างไกล องค์หญิงตรัสกับพระโอรสอย่างห่วงใยว่า “การไปเผยแพร่มหายานธรรมนั้นใครเป็นอื่นไม่ได้นอกจากตัวเจ้า แต่แม่กังวลว่าเจ้าไปคนเดียวโดดเดี่ยว ความลำบากย่อมมากมายนัก” กุมารชีพทูลพระมารดาว่า “พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อยังประโยชน์แก่สรรพชีวิต ถ้าหากลูกสามารถเผยแพร่มหายานธรรมเพื่อให้สรรพสัตว์รู้แจ้ง แม้ร่ากายจะได้รับความทุกข์ร้อนดั่งไฟแผดเผาก็ไม่เสียดายชีวิต จะไม่ย่อท้อเป็นอันขาด”

   母亲爱怜地说:“你的意志如此坚强,我很高兴,证明你已经长大成人,我的任务总算完成了。”母亲要到天竺去履行自己的誓言,同时印证自己所修的果位。母 子一别,也许后会无期。坚强的母亲鼓励孩子:“在你前进的路途中,不知会遇到多少艰难险阻,希望你要忍耐,要坚强,就是面临绝境也要或下去。” พระ มารดาทั้งรักและสงสาร ตรัสว่า “เจ้ามีความตั้งใจมั่น แม่ปลาบปลื้มใจนัก เห็นได้ชัดว่าเจ้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ภาระของแม่นับว่าลุล่วงแล้ว” พระมารดาต้องการไปชมพูทวีปเพื่อปฏิบัติตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้แต่แรก พร้อมยืนยันมรรคผลที่บำเพ็ญมา สองแม่ลูกจากันคราวนี้อาจไม่มีโอกาสพบกันอีก พระมารดาผู้ทรงมีจิตใจแข็งแกร่ง ให้กำลังใจลูกว่า “ลูกรักของแม่ ท่ามกลางหนทางก้าวหน้าของลูก ไม่รู้ว่าจะประสบขวากหนามเพียงใดหวังว่าลูกจะอดทน แน่วแน่ แม้จะตกอยู่ในสภาพอับจนก็ต้องสู้ เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้

  母子商定之后,耆婆便去向白纯国王辞行,她要先行一步,让罗什暂时留在龟兹。她托付哥哥对罗什多加关照。她对哥哥说:“人很快就会衰老,我应该再求精进,决不虚度此生。”罗什与母亲互道珍重,依依泣别。 เมื่อสองแม่ลูกหารือกันเสร็จสิ้น องค์หญิงฉีผอก็ไปกราบบังคมลากษัตริย์ไปฉุน เพื่อขอออกเดินทางไปล่วงหน้า โดยให้กุมารชีพพักอยู่แคว้นกุฉาไปพลาง นางได้ฝากฝังพระเชษฐาให้ช่วยดูแลพระนัดดาด้วย พร้อมทูลว่า “คนเราแก่ชราได้รวดเร็ว ข้าพเจ้าต้องพากเพียรไม่ปล่อยให้ชีวิตล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์” กุมารชีพและมารดากอดร่ำลากันอย่างทะนุถนอม ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความอาลัยรัก

   母亲走了,罗什独自留下,住在国王新寺内。一天他在寺旁的故宫内发现一本《放光经》,十分高兴。他发现这部经语言通俗,文字优美,如“所言柔软无复懈 怠”,“所作不忘颜色和悦”,“所说如幻、如梦、如响、如影、如化、如水中泡、如镜中像、如热时炎、如水中月”等等。他认为用这种经文教化众生,一定易于 成功。เมื่อ พระมารดาเสด็จจากไป กุมารชีพพักอยู่เพียงลำพังที่วัดสร้างใหม่แห่งหนึ่ง วันหนึ่งกุมารชีพไปพบคัมภีร์เล่มหนึ่ง ชื่อว่า “ฟั่งกวางจิง” ในวังเก่าข้างวัดแห่งหนึ่ง ท่านรู้สึกดีใจอย่างยิ่งเพราะถ้อยคำที่ใช้ในคัมภีร์นั้นเรียบง่าย อักขระงามเลิศ ใช้ถ้อยคำสละสลวยไม่ซ้ำซาก ไม่ละเลยสีสันของบทประพันธ์ อาทิ “สิ่งที่พูดดั่งมา ดั่งฝัน เสมือนดัง เสมือนโชติช่วง เสมือนเงา เสมือนผันแปร เสมือนพรายน้ำ เสมือนภาพในกระจก เสมือนเปลวเพลิงร้อนระอุ เสมือนจันทราในวารี เป็นต้น” ท่านเชื่อว่าการใช้คัมภีร์เช่นนี้ การกล่อมเกลาสาธุชนย่อมสัมฤทธิ์ผลง่ายขึ้น

   罗什潜心研读佛典,也时常想念母亲。母亲为了履行誓愿,为了追求佛法而甘愿吃苦的精神时时极力着他。转眼间两年过去了,向罗什拜师学习的人络绎不绝。国 王为了表示对罗什的尊重与喜爱,特地拿出王宫库存的黄金,为罗什打造了一个狮子座,铺上名贵的中国锦褥,供罗什升座说法之用。 กุมารชีพค้นคว้าตำราพุทธศาสตร์อย่างตั้งใจ และครุ่นคิดถึงพระมารดาอยู่เสมอ เพราะพระมารดามีปณิธานในการแสวงหาพุทธธรรม ยอมทนทุกข์ทรมานต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจผลักดันให้เขาอยู่เสมอ พริบตาเดียวก็ผ่านไป 2 ปี ผู้คนที่มามอบกายเพื่อศึกษาธรรมะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กษัตริย์ไปฉุนนำทองคำที่เหลืออยู่จากท้องพระคลังมาสร้างเป็นสีหาสนะลาดคลุม ด้วยเบาะแพรมีชื่อของประเทศจีน เพื่อให้กุมารชีพใช้แสดงธรรมโดยเฉพาะเป็นการแสดงออกถึงความนิยมนับถือ

  每次法会都极其隆重,规格相当高。前来听经的大都是邻国国王、大臣和有名的学者,他们非常恭敬地长跪一侧,静候罗什登上宝座。年轻的罗什端坐在狮子座上,是那样的高贵与尊严,他神态安详、镇定自若地宣讲。 ทุกครั้งที่มีการแสดงธรรม สถานที่จะต้องจัดอย่างมีพิธีรีตองและยิ่งใหญ่ผู้มาฟังส่วนใหญ่เป็นกษัตริย์ แคว้นข้างเคียง มุขมนตรี ปราชญ์ที่มีชื่อเสียง ทุกๆท่านคุกเข่าด้วยความนอบน้อมอยู่ข้างๆ เผ้ารอกุมารชีพแสดงธรรมอย่างสำรวม กุมารชีพซึ่งยังเยาว์วัยขึ้นนั่งแสดงธรรมบนสีหาสนะอย่างสุภาพอ่อนโยน ท่วงท่าสูงสง่าเคร่งขรึมแสดงธรรมเหมือนปกติด้วยกริยาสงบสำรวม

  罗什想到在“?宾国的师父盘头达多还未能知晓大乘佛法,便想告别国王,离开龟兹,前往?宾。”他好不容易说服了国王。  กุมารชีพคิดขึ้นมาได้ว่า พันโธเทวทัตเถระซึ่งอยู่แคว้นกุภาน ยังไม่ได้รับทราบเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับนิกายมหายาน จึงคิดจะอำลากษัตริย์กุฉาไปแคว้นกุภาน แต่กว่าจะขออนุญาตกษัตริย์ไป่ฉุนได้ก็ต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย

  正在辞别间,有人禀报有个叫盘头达多的法师前来求见。国王和罗什都大喜过望,忙出宫迎接。罗什恭敬地向师父行礼问安,师父也情不自禁地伸出双手,将罗什环抱。 ขณะที่ล่ำลากันอยู่นั้น มีผู้มารายงานว่ามีพระเถระรูปหนึ่งชื่อพันโธเทวทัตขอพบกษัตริย์และกุมารชีพ กุมารชีพดีใจสุดจะบรรยายรีบออกจากวังมาต้อนรับ กุมารชีพทำความเคารพไถ่ถามทุกข์สุขกับอาจารย์อย่างนอบน้อม อาจารย์ก็อ้าแขนโอบกอดกุมารชีพด้วยความรักใคร่

 

    

           

ก่อชนวนสงคราม

 

                   

 

 

 

   

          

       

           

          

           

                                       

  国王以极其隆重的礼节接待盘头达多,将他安排在罗什修行的新寺内居住。夜晚,师徒俩在禅房谈心,共叙别后情形。盘头达多问:“听说你已经改习大乘,而且在龟兹国广为宏扬,是真的吗?”  กษัตริย์จัดพิธีต้อนรับพันโธเทวทัตเถระตามธรรมเนียมอย่างยิ่งใหญ่ จัดให้พักอยู่ห้องปฏิบัติธรรมกุฎิเดียวกับกุมารชีพ ตกค่ำคืนอาจารย์กับศิษย์นั่งสนทนากันที่กุฎิถึงเรื่องต่างๆ นับแต่จากกัน พระเถระถามว่า “ได้ข่าวว่าท่านเปลี่ยนจากนับถือนิกายหินยานเป็นนิกายมหายาน และได้เผยแพร่อย่างกว้างขวางในแคว้นกุฉา เป็นเรื่องจริงหรือ”

   罗什兴奋地点点头:“是的师父。”在师父的许可下,他高兴地向师父诵读《德女问经》当读到“一切诸法皆毕竟空”之句时,盘头达多欲言又止。罗什再继续读 下去:“今者如来所转法轮,是虚空法轮、性空法轮、出离法轮、通达法轮,不思议法轮、无能转者法轮......”时,盘头达多实在忍不住了:“你所诵的这 部经,究竟有什么微妙之处,值得你如此推崇?”กุมาร ชีพพยักหน้าอย่างตื่นเต้นดีใจ “จริงขอรับ อาจารย์” ภายใต้การอนุญาตของอาจารย์เขาขออ่าน เต๋อหนวี่เวินจิง อย่างเสียงดังให้อาจารย์ฟัง เมื่ออ่านถึงประโยคที่ว่า “หลักธรรมทั้งหลาย สุดท้ายคือความว่างเปล่า” พระเถระทำท่าจะพูดแต่แล้วก็ยั้งไว้ กุมารชีพ อ่านต่อว่า “ธรรมจักรที่พระยูไลหมุนเคลื่อนในยามนี้เป็นธรรมจักรอันว่างเปล่า ธรรมจักรอันมีธรรมชาติว่างเปล่า ธรรมจักอันสละออกจากกาม ธรรมจักรอันผ่านทะลุถึงกัน ธรรมจักอันเป็นอจินไตย ธรรมจักรอันบุคคลไม่อาจหมุนเคลื่อนได้ ...ถือตอนนี้ พระเถระอดรนทนไม่ได้อีกต่อไปถามกุมารชีพว่า “คัมภีร์ที่ท่องอยู่นี้ จริงๆ แล้วมีอะไรลี้ลับลึกซึ้งหรือ ท่านจึงเห็นสมควรแก่การสรรเสริญยกย่อง”

   罗什说:“这部经所讲的义理,微妙通达,说明一切皆空。”盘头达多说:“你说一切法都是空的,这想法太可怕了。那有舍弃法而爱空的呢?”罗什耐心地说: “常人所说的空,其实不是真正的空,是有。而大乘法所说的空却是彻底的空,甚至连‘空’的观念也是空的。”盘头达多不理解。  กุมารชีพตอบว่า “หลักธรรมของคัมภีร์มีความหมายลึกซึ้งอัศจรรย์นัก ไขความได้ว่าสรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า” พระเถระกล่าวว่า “ท่านบอกว่า ธรรมทั้งหลายคือความว่างเปล่า ความคิดนี้น่ากลัวจริงๆ มีที่ไหนให้ละทิ้งหลักธรรมที่มีตัวตน ไปนับถือหลักธรรมทีมีแต่ความว่างเปล่า” กุมารชีพอธิบายต่อว่า คำว่า “ว่างเปล่า” ที่ปุถุชนพูดนั้นความจริงแล้วไม่ใช่ความว่างเปล่า แท้จริงคือ “มี” แต่ความหมายของมหายานที่ว่า “ว่างเปล่า” นั้นเป็นความว่างเปล่าถึงที่สุด แม้แต่ความคิดเกี่ยวกับความ “ว่างเปลา” ก็คือความ “ว่างเปล่า” พันโธเทวทัตเถระงุนงงไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

    罗什知道老师长期研读小乘,执着已久,一下不易接受,便用种种方便的譬喻,又引经据典,耐心加以解释。经过多次辩论,盘头达多彻底信服了大乘,他诚恳地 说:“我这个做老师的不了解大乘的道理,反要弟子启发,惭愧之至,从今天起,你便是我的大乘老师。”กุมาร ชีพ เข้าใจถึงความยึดติดของพันโธเทวทัตเถระ ที่คุ้นเคยและค้นคว้าศึกษาแต่นิกายหินยาน ย่อมไม่ยอมรับนิกายมหายานได้ง่ายๆ ในเวลาอันสั้น จึงเปรียบเทียบอย่างง่ายๆหลากหลายแง่มุมอ้างอิงตำรับตำรา ใช้ความอดทนค่อยๆชี้แจง หลังจากโต้แย้งกันหลายครั้ง ในที่สุด (เกิดพุทธิปัญญา) พันโธเทวทัตเถระก็เข้าใจถึงแก่นแท้ จึงศรัทธาต่อนิกายมหายาน และพูดด้วยความเลื่อมใสว่า “อาตมา ในฐานะครูบาอาจารย์ไม่เข้าใจหลักธรรมของมหายานกลับต้องให้ลูกศิษย์ชี้แนะ ช่างน่าละอายใจจริง นับจากวันนี้ ท่านก็คือ อาจารย์ผู้สอนหลักธรรม มหายานของอาตมา”

   罗什忙说:“弟子不过尽了些弘法的责任,怎么能在老师面前称师呢?”盘头达多说:“今天既已皈依大乘,你就是我的大乘老师,这没什么不好的。”盘头达多 说着,就站起来,要给罗什行礼。罗什一见,慌忙阻止道:“这个万万使不得,您永远是我的老师,没有您就没有我的今天!”师徒俩执手相视而笑,两人都非常诚 恳真挚,成就了佛教史上的一段佳话。        กุมารชีพรีบตอบว่า “ศิษย์เพียงทำหน้าที่ถ่ายทอดหลักธรรมให้ดีที่สุดเท่านั้น จะอาจเอื้อมเป็นอาจารย์ของท่านได้อย่างไร” พันโธเทวทัตเถระตอบว่า “ในเมื่อวันนี้เสื่อมใสนิกายมหายานแล้วท่านก็คืออาจารย์ ไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง” พันโธเทวทัตเถระพูดพลางยืนขึ้นประนมกรคารวะกุมารชีพ กุมารชีพเห็นเช่นนั้น ก็รีบห้ามปราบไว้บอกว่า “ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด ท่านเป็นอาจารย์ของอาตมาตลอดไป หากไม่มีท่านก็ไม่มีอาตมาในวันนี้” อาจารย์กับศิษย์จับมือยิ้มแย้มอย่างเข้าอกเข้าใจกัน ทั้งสองสนิทสนมรักใคร่อย่างบริสุทธิ์ใจ กลายเป็นเรื่องดีงามที่เล่าลือกันในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา

  这时候,中国北方的大部分地区陷于战乱之中,正是历史上的十六国时期。公元357年,月氏族首领苻坚攻克关中,在长安称帝,自称大秦天王,改国号永兴元年。   ช่วงเวลานั้น ทางทิศเหนือของประเทศจีน พื้นที่ส่วนใหญ่ตกอยู่ในภาวะศึกสงครามซึ่งในประวัติศาสตร์ก็คือสมัยสิบหก แคว้น ระหว่างปี            พ.ศ.900 ชาวกุษาณ มีหัวหน้าชื่อ ฝูเจียน ยึดครองแผ่นดินใหญ่จีนบางส่วน ตั้งตัวเป็นกษัตริย์อยู่นครฉางอานมีพระนามว่าต้าฉินเทียนหวัง เปลี่ยนรัชสมัยแผ่นดินเป็น ปีหย่งซิงที่ 1

  苻坚信奉佛教,很想把名僧道安从襄阳请到长安供养,让他在长安说法。此时,正是道安在东晋一生中事业最顺利的时候。他在襄阳影响很大,名闻天下。苻坚多次派人去请,并馈赠珍宝,但道安不为所动。 กษัตริย์ฝูเจียน ทรงนับถือพุทธศาสนา ตั้งพระทัยจะนิมนต์ธรรมาจารย์เต้าอัน ผู้ที่มีชื่อเสียงจากเมืองเซียงหยาง ให้มาพำนักที่นครฉางอานเพื่อแสดงธรรม ยามนั้นเป็นช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุดของธรรมาจารย์เต้าอันซึ่งพำนักอยู่ ที่เมืองตงจิ้น ธรรมาจารย์เต้าอันมีส่วนสำคัญต่อเมืองเซียงหยางมาก ชื่อเสียงของท่านระบือไปทั่วหล้า กษัตริย์ฝูเจียนให้คนไปนิมนต์หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากธรรมาจารย์เต้าอันแต่ประการใด

  于是,苻坚派苻丕率兵攻打襄阳。襄阳失守,道安被苻丕手下的将士带往北方。     ดังนั้น กษัตริย์ฝูเจียนจึงรับสั่งให้ฝูพี นำทหารไปโจมตีเซียงหยาง ในที่สุดเมืองเซียงหยางต้านรับไม่ได้จึงถูกตีแตก ธรรมาจารย์เต้าอันจึงถูกทหารใต้บัญชาของฝูพีนำตัวขึ้นมาทางเหนือ

  苻坚见到道安,满脸含笑,连忙喝退两名押送的将士,为道安接风洗尘,并请他上殿详谈。道安道:“大王兴师动众,就是为了寻求高僧。现在龟兹国就有一位鸠摩罗什法师,他通晓大乘佛法,被称为舍利弗再世,大王不如请他吧。”กษัตริย์ ฝูเจียน ได้พบกับธรรมาจารย์เต้าอันด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้ม ทรงรับสั่งให้ทหาร 2 คนที่คุมตัวมาส่งนั้นถอยไป จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่พร้อมนิมนต์ไปสนทนาที่ท้องพระโรง ธรรมาจารย์เต้าอันพูดว่า “พระองค์ทรงยกทัพเคลื่อนพลมากมาย เพื่อค้นหาพระเถระผู้ใหญ่ที่มีความสามารถสูง เวลานี้แคว้นกุฉามีท่านผู้หนึ่ง มีความรอบรู้ทุกด้าน เข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับนิกายมหายาน ได้รับสมญานามว่า เป็นพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด พระองค์ทรงรับสั่งนิมนต์ท่านกุมารชีพมาเถอะ”

   再说,这时的龟兹国内,国王的弟弟白震窥伺王位已久,因实力不够,便想借他人之手推翻白纯。他联合前部王到长安游说攻打西域。苻坚先是口头答应而没有行 动。前秦建元十七年(公元381年),前部王与鄯善王再次游说苻坚攻打西域,苻坚认为时机已到,便不再犹豫,积极调派军队。 กล่าวถึงเหตุการณ์ภายในของแคว้นกุฉา พระอนุชาของกษัตริญ์ไปฉุน ชื่อไป่เจิ้นคอยจ้องหาโอกาสชิงพระราชบัลลังก์มานานแล้ว แต่เพราะยังไม่มีกำลังพอจึงคิดอาศัยยืนกำลังคนอื่นมาโค่นล้มพระเชษฐาไป่ฉุน ไป่เจิ้นสมคบกับกษัตริย์เฉียนปู้ ไปโน้มน้าวกษัตริย์ฝูเจียนเพียงตอบรับด้วยปากเปล่าแต่ยังไม่เคลื่อนไหวกระทำ การใดๆ จนถึงรัชสมัยต้นฉินเจี้ยนเหวียนปีที่ 17 กษัตริย์เฉียนปู้และกษัตริย์ซั่นซั่น ไปโน้มน้าวกษัตริย์ฝูเจียนให้ยกทัพโจมตีดินแดนทางตะวันตกอีก คราวนี้กษัตริย์ฝูเจียนคิดว่าโอกาสมาถึงแล้วจึงไม่ลังเลพระทัย เคลื่อนทัพจัดส่งกำลังทหารอย่างขะมักเขม้นเตรียมออกโจมตี

   建元十八年(382)九月,苻坚派大将吕光偕同将军姜飞统步兵七万、骑兵五千,征伐龟兹和乌耆等国。苻坚之所以决心攻打西域,一个最主要的原因,是为了 得到鸠摩罗什。因为自从道安来长安三年之后,长安城内风气大为改观,诗赋之士纷纷依附。而罗什为西域高僧,如能得他辅佐,必定锦上添花。苻坚在为吕光饯别 时,郑重叮嘱他切不可伤害鸠摩罗什。 เจี้ยนเหวียนปีที่ 18 (ปี คศ.382) เดือนเก้า กษัตริย์ฝูเจียนส่งแม่ทัพใหญ่ หลวี่กวางพร้อมทั้งนายพลเจียนเฟย รวมรวมทหารราบ 7 หมื่นคน ทหารม้า 5 พันคน ไปปราบปรามแคว้นกุฉา แคว้นอัคนิ และประแทศข้างเคียง การที่กษัตริย์ฝูเจียนตัดสินพระทัยไปโจมตีประจิมประเทศนั้น เหตุผลสำคัญที่สุดคือ มีพระประสงค์จะได้ท่านกุมารชีพมาอยู่ที่ฉางอาน เพราะว่าตั้งแต่ธรรมาจารย์เต้าอันมาจำวัดที่นครฉางอาน 3 ปีมานี้ สภาพแวดล้อม และบรรยากาศทั่วไปในนครฉางอานเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นมาก มีเหล่ากวีหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านกุมารชีพเป็นพระเถระใหญ่แห่งประจิมประเทศ หากได้ท่านมาช่วยเหลือย่อมเหมาะเจาะดังแพรไหมประดับแซมด้วยบุปผาชาติ กษัตริย์ฝูเจียน จัดงานเลี้ยงส่งให้กับแม่ทัพใหญ่หลวี่กวาง พร้อมกำชับให้ระมัดระวังห้ามทำร้ายท่านกุมารชีพเด็ดขาด

  此时的鸠摩罗什已经三十九岁了。这天他在讲经时,突然心跳难平,似乎将有战乱发生。他将自己的感觉告诉国王,国王派人出去侦察。几天后,有密探来抱,大秦国吕光、姜飞的军队已经到了三百里以外。国王一听,立即传令全国,紧急备战。  ในปีนั้น ท่านกุมารชีพอายุ 39 ปี วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังแสดงธรรมอยู่รู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ ท่านสังหรณ์ใจว่าอาจจะมีชนวนเหตุให้เกิดศึกสงครามขึ้นได้ ท่านกราบทูลกษัตริย์กุฉาถึงความรู้สึกของตน พระองค์ส่งทหารไปคอยสอดแนมไม่กีวันก็มีสายลับกลับมาทูลว่า แม่ทัพใหญ่หลวี่กวางและเจียนเฟยแห่งแคว้นฉิน ได้ยกกองทัพใหญ่มาถึงแล้ว ห่างแค่ 300 ลี้เท่านั้น กษัตริย์ไปฉุนจึงทรงมีบัญชาให้คนทั้งประเทศเตรียมพร้อมเพื่อทำสงครามอย่าง เร่งด่วน

  不出三天,吕光的大军兵临城下,将龟兹国王城紧紧地包围了起来。面对入侵者,白纯决心率领全城军民奋力抵抗,决不妥协投降。他尽管势单力薄,却怒目圆睁,号令手下将领出城迎战。  ไม่เกิน 3 วัน กองทัพใหญ่ของแม่ทัพกลวี่กวางเคลื่อนทัพใหญ่มาประชิดกำแพงเมืองปิดล้อมแคว้น กุฉาไว้ทุกด้าน กษัตริย์ไปฉุนเผชิญหน้ากับผู้รุกราน ตัดสินพระทัยนำทหารประชาชนทั่วแคว้นต่อสู้ถึงที่สุด จะไม่ยอมอ่อนน้อมสวามิภักดิ์เป็นอันขาด ถึงแม้ว่าแสนยานุภาพจะเป็นรองกว่าในทุกด้าน แต่พระองค์ทรงมีพระพักตร์หนักแน่นเข้มแข็ง พระเนตรดุดัน มีพระบัญชาให้ขุนศึกและทหารทุกฝ่ายเตรียมพร้อมออกสู้รบกับข้าศึก

  鸠摩罗什在分析了敌我双方的兵力之后,料定此战必败,会白白牺牲许多将士,他几次劝国王放弃抗击,国王就是听不进去。此时,他看到国王就要带兵去迎战,忙上前劝阻,但哪里劝阻得了?  ท่านกุมารชีพวิเคราะห์กำลังสภาพแวดล้อมของข้าศึกกับกำลังของแคว้นกุฉา เห็นว่าการศึกสงครามครั้งนี้แคว้นกุฉาคงต้องเป็นฝ่ายปราชัย สูญเสียชีวิตมากมายเปล่าประโยชน์ท่านจึงได้ตักเตือนอ้อนวอนกษัตริย์ไปฉุนให้ ทรงปล่อยวางเรื่องรบราฆ่าฟันหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพระองค์ก็ไม่ทรงรับฟัง และทรงเตรียมพระองค์นำทัพออกศึกอีก ท่านกุมารชีพรีบยับยั้งห้ามปราม แต่ไหนเลยที่จะยับยั้งพระองค์ได้

 

         

ตกหลุมพราง

 

  吕光的军队见年老体衰的龟兹国王亲自出城督战,一时都愣住了。霎时,两军对峙,像一座爆发前的火山。几分钟之后,喊声震天,兵器的撞击声不绝于耳,人马纷纷倒地,血光冲天,尸横遍野。最后,如洪水猛兽般的吕光大军占了上风,国王白纯在混战中被杀。  แม่ทัพหลวี่กวาง เห็นกษัตริย์แคว้านกุฉาที่ชราและอ่อนแอ ทรงออกศึกสู้รบด้วยพระองค์เองก็ตกตะลึงชั่วขณะ กองทัพทั้งสองฝ่ายตั้งประจันหน้ากันเหมือนภูเขาไฟร้อนที่แรงพร้อมที่จะประทุ เพียงไม่กี่อึดใจ ครั้นแล้วเสียงโห่ร้องกึกก้องสนั่นฟ้า เสียงปะทะของศาสตราวุธดังไม่ขาดหู คนและม้าล้มระเนระนาด กลิ่งคาวเลือดคลุ้งไปทั่วปฐพี ซากศพเกลื่อนกลาด การสู้รบของทัพแม่ทัพกลวี่กวางเสมือนสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากและสัตว์ดุร้าย ทรงพลังจึงได้เปรียบ ในทีสุดกษัตริย์ไป่ฉุนก็ทรงสิ้นพระชนม์ระหว่างการสู้รบ

  吕光的部队占领了王城,吕光骑在马上威风凛凛地进城。鸠摩罗什被吕光的将士押者去见吕光。 หน่วยทหารของแม่ทัพกลวี่กวางยึดครองแคว้นกุฉา หลวี่กวางขี่ม้าเข้าเมืองอย่างองอาจน่าเกรงขาม ท่านกุมารชีพถูกทหารคุมตัวเข้าพบแม่ทัพหลวี่กวางทันทีที่มาถึง

  吕光立白震为新国王。这位奸佞的小人终于如愿以偿,当起了傀儡。为了感恩,白震在王宫大开宴会,奴才般地向吕光几敬酒。吕光根本不把白震放在眼里,他肆无忌惮地吃喝玩乐,放纵他的部队在城里到处搜刮、掠夺。 แม่ทัพหลวี่กวาง แต่งตั้งไปเจิ้น (พระอนุชาของกษัตริย์ไปฉุน) เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ คนชั่วช้าทรยศชาติผู้นี้ได้เป็นกษัตริย์สมดังหวัง แต่เป็นเพียงหุ่นเชิด เพื่อแสดงการตอบแทนกษัตริย์ไป่เจิ้นจึงจัดงานเลี้ยงขึ้นในวังอย่างใหญ่โต ยกสุราให้แม่ทัพหลวี่กวางเหมือนข้าทาสนอบน้อมเจ้านาย ส่วนแม่ทัพหลวี่กวางนั้นไม่เห็นกษัตริย์ไป่เจิ้นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขา กินดื่มเที่ยวเล่น ทำตัวตามใจชอบอย่างไม่เกรงกลัวใคร ทั้งยังปล่อยให้ทหารในกองทัพกำเริบเที่ยวปล้นสะดมทรัพย์สินของชาวบ้านทุก แห่งหน

    寡廉鲜耻的吕光居然命人将白纯的女儿带来陪伴他。长公主冷若冰霜的脸上,一股凛然不可侵犯的气概,是那么典雅、端庄、高贵。她容颜美丽,体态婀娜,如玉的 皮肤细腻洁白。吕光只觉得眼前一亮,情不自禁地赞叹:“真是国色天香,旷世佳人呢!” คนไร้ยางอายอย่างแม่ทัพหลวี่กวางให้ทหารไปนำตัวองค์หญิงจั่ง (พระธิดาของกษัตริย์ไป่ฉุน) มาเป็นเพื่อนดื่มสุรา องค์หญิงมีสีหน้าเย็นชา บุคลิกสง่างามน่าเกรงขามงดงามสูงส่ง เรือนร่างก็ช่างชดช้อย ผิวพรรณขาวเนียนหมดจด แม่ทัพหลวี่กวางตกตะลึง ดวงตาเป็นประกาย อุทานออกมา “สวยดั่งบุปผาชาติ งามดังนางฟ้าเป็นหนึ่งไม่มีสองจริงๆ”

  鸠摩罗什被带进宫去见吕光。吕光原以为鸠摩罗什是一位**老人,及至见了,竟如此年轻。他想不到鸠摩罗什这样年轻就会有如此大的声望。罗什见了吕光,双目微闭,双手合十,不卑不亢地回答吕光的询问,沉静得像 一泓池水。吕光的心情却非常复杂。ท่าน กุมารชีพ ถูกนำตัวเข้าพบแม่ทัพหลวี่กวาง แม่ทัพหลวี่กวางคิดว่ากุมารชีพคงเป็นคนแก่อายุเจ็ดสิบขึ้น เมื่อได้เห็นตัวจริง คิดไม่ถึงว่าอายุยังเยาว์ก็มีชื่อเสียงเกียรติคุณถึงเพียงนี้ ท่านกุมารชีพหรี่ตาเล็กน้อย พนมมือทำความเคารพ ตอบคำถามของแม่ทัพหลวี่กวางอย่างไม่สะทกสะท้านไม่เย่อหยิ่ง สีหน้าท่าทีสงบราวกับบ่อน้ำนิ่ง ส่วนจิตใจของแม่ทัพกลับตื่นเต้นสับสนอย่างบอกไม่ถูก

  入夜,吕光越想越气:“皇上命我率领七万五千大军长途出征,就为了这么个小子?”想起这几个月来风餐露宿的辛苦和流血战场的厮杀,憋了一肚子的或,心里烦躁不安。他想报复鸠摩罗什,却又不能伤害他的身体。于是他想起了美貌的长公主,决心来一次恶作剧。 แม่ทัพหลวี่กวาง ยิ่งคิดยิ่งโกรธเคือง “เพียงเพื่อพระสงฆ์น้อยๆรูปนี้ ทำให้ต้องนำไพร่พล 75,000คน ตรากตรำทำศึกยาวไกลถึงเพียงนี้หรือ” หวนคิดว่าหลายเดือนมานี้ต้องทนลำบากนอนกลางดินกินกลางทราย ยิ่งคิดยิ่งบันดาลโทสะว้าวุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง จึงคิดจะกลั่นแกล้งท่านกุมารชีพแต่ทำร้ายร่างกายท่านไม่ได้ ก็หวนคิดถึงองค์หญิงจั่งผู้เลอโฉมขึ้นมาทันที ตัดสินใจจะกลั่นแกล้งทำลายชื่อเสียงของท่านกุมารชีพ

  计谋已定,心中的烦恼立即烟消云散。他开心地喝起酒来。喝了一会,突然叫道:“来人!”一士兵立刻走进来:“将军,有何吩咐?”吕光兴奋地说道:“快把鸠摩罗什带来!”士兵回答:“是!” เมื่อมีกลอุบายที่จะกลั่นแกล้ง จิตที่ว้าวุ่นกลัดกลุ้มก็จางหายไปทันที ร่ำสุราต่อไปอย่างสบายอารมณ์ สักครู่ก็เรียกทหารไปนิมนต์ท่านกุมารชีพเข้ามาพบในห้อง

   鸠摩罗什被带了进来,仍是那样平静如水。吕光大笑一阵之后,说:“听说你是舍利弗再世。既如此,就应该娶妻生子,传法种于后代。”罗什忙说:“出家人当 严守戒律,怎能娶妻生子呢?”吕光哈哈大笑:“我已经给你物色了一位绝代佳人,把长公主嫁给你,你看怎么样?”鸠摩罗什知道吕光在逼迫他,仍坚决加以拒 绝。   ท่านกุมารชีพ ยังคงมีสีหน้าเยือกเย็นสงบเรียบดังผิวน้ำ แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะเสียงดังพูดว่า “ว่ากันว่าท่านคือพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด ถ้าเช่นนั้นท่านก็ต้องแต่งงานมีบุตรจะได้มีธรรมทายาทสืบทอดต่อไป” ท่านกุมารชีพรีบตอบว่า “ผู้ออกบวชต้องเคร่งครัดต่อกฎวินัย จะแต่งงามมีบุตรได้อย่างไร” แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ข้าพเจ้าได้เสาะหาสาวงาม งดงามอย่างไม่มีใครเปรียบ จะให้องค์หญิงจั่งสมรสกับท่าน ท่านจะว่าอย่างไร” ท่านกุมารชีพทราบดีว่าแม่ทัพหลวี่กวางกำลังบีบคั่นท่าน จึงยืนกรานปฏิเสธอย่างแข็งขันเด็ดขาด

  吕光冷笑一阵,嘲弄地说:“我听人说‘一个有道德的人,他的的德行不应该超过他的父亲。’你的父亲可以还俗娶妻,你有什么不可以呢?”吕光想:“料你也难以逃脱我的手心。”于是,他缓了缓口气,说:“好吧,我现在也不强迫你,你回去好好想想吧。”   แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะเยาะครู่หนึ่ง พูดอย่างเย้ยหยันว่า “ได้ยินคนบอกว่า ผู้ทรงคุณธรรมนั้น ไม่ควรมีคุณธรรมสูงเกินบิดาตน บิดาของท่านยังสามารถลาสิกขาบทได้ท่านมีอะไรจะทำไม่ได้เล่า” หลวี่กวางครุ่นคิดอยู่ในใจว่า “คาดว่าท่านคงยากที่จะหลุดพ้นเงื้อมมือข้าพเจ้า” ครั้นแล้ว เขาค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า “เอาละ ข้าพเจ้าจะไม่บีบคั้นท่านเดี๋ยวนี้ ท่านกลับไปตรึกตรองดูเถอะ”

  过了几天,吕光派人到枷蓝寺请鸠摩罗什进宫参加晚宴。罗什被带进宫,吕光大笑着请他喝酒。鸠摩罗什哪肯破戒?吕光就命人强行灌酒。见罗什被灌,吕光放声大笑道:“哈哈哈!这不就得了吗?酒可是好东西呀!哪有男人不会喝酒的呢?”

            หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่ทัพหลวี่กวางก็ให้ทหารไปนิมนต์ท่านกุมารชีพ ที่วัดเจียหลันเข้ามาร่วมงานเลื้ยงในวัง เมื่อท่านกุมารชีพมาถึง แม่ทัพหลวี่หัวเราะเสียงดังและเชื้อเชิญให้ร่วมดื่มสุรา ท่านกุมารชีพย่อมไม่ยอมละเมิดกฎวินัยแน่ แม่ทัพหลวีกวางก็ให้ทหารกรอกเหล้าบังคับให้ดื่ม แม่ทัพเห็นภาพที่ท่านกุมารชีพถูกทหารกรอกเหล้าก็หัวเราะอย่างดีอกดีใจ “ฮา ฮา ฮา นี่ก็ดื่มได้แล้วมิใช่หรือ สุราเมรัยเป็นของดีจริงๆนะ มีที่ไหนกันที่ผู้ชายดื่มสุราไม่เป็น”

 

  酒的味道,使从未接触过酒的鸠摩罗什难受极了。接着姜飞将军也来向罗什“敬酒”,诸将们不容分说,一个接一个地把酒从罗什口中灌下去。罗什只感到头痛欲裂,眼前金星只冒,胸膛像要爆炸似的难受。吕光见时机已到,对士兵们叫道:“你们去把长公主请来!”ฤทธิ์ ของสุรานั้น ทำให้ท่านกุมารชีพลิ้มรสอย่างทรมาน เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมายังไม่เคยสัมผัสสุรามาก่อน นายพลเจียนเฟยก็รินเพิ่มให้ดื่มอีก รวมถึงเหล่าทหารนายกองคนแล้วคนเหล่าทยอยมากรอกเหล้าใส่ปากท่านกุมารชีพ จนท่านรู้สึกปวดศีรษะเหลือทนจนแทบระเบิด แม่ทัพหลวี่กวางเห็นว่าโอกาสมาถึงแล้ว จึงสั่งให้ทหารไปเชิญองค์หญิงจั่งเข้ามาในห้อง

  公主被带了进来,吕光指着公主向罗什挑逗。其实,这时的罗什已经什么也听不进去了,他只是难受地用手抱着头.可怜的公主也茫然不知所错。  องค์หญิงจั่งถูกนำตัวเข้ามาในห้อง แม่ทัพหลวี่กวางชี้ไปที่องค์หญิงจั่งเพื่อยั่วเย้าท่านกุมารชีพ แน่นอนทีเดียว ยามนี้ท่านกุมารชีพไม่สามารถรับรู้อะไรอีกต่อไป ท่านเอาแต่กุมศีรษะอย่างปวดร้าว สงสารก็แต่องค์หญิงจั่งที่ประทับอยู่เคียงข้างไม่ทราบจะวางตัวอย่างไร

  过了不久,罗什终于抵抗不住酒性,无力的倒在桌子上,昏睡过去.吕光命人将罗什与公主一起关在一间密室里,自己则带者部下,得意地离开,又去寻欢作乐了。  เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ท่านกุมารชีพทนพิษฤทธิ์สุราไม่ไหว ล้มฟุบลงกันโต๊ะอย่างสิ้นเรี่ยวแรงเมาพับหลับไป แม่ทัพหลวี่กวางให้ทหารนำท่านกุมารชีพกับองค์หญิงจั่งขังอยู่ในห้องลับเดียว กัน แล้วแม่ทัพหลวี่กวางก็พาทหารจากไปหาความสุขภายนอกอย่างสมใจ

  次日,昏睡了一夜的罗什睁开了眼睛.他发现这不是他的禅房,而是一个完全陌生的地方.他看到长公主坐在角落里低声哭泣,非常伤心.他再三问表妹后,才恍然大悟:“啊!天哪!我喝了酒,我违反了戒律。”悔恨与痛苦,一起向他袭来。วัน รุ่งขึ้น ท่านกุมารชีพที่หลับใหลตลอดคืน ลืมตาขึ้นรู้สึกแปลกใจที่พบว่าไม่ใช่กุฎิของท่าน และเห็นองค์หญิงจั่งทรงประทับกรรแสงอยู่มุมห้องอย่างเสียพระทัย สอบถามเมื่อรู้ความจากองค์หญิง จึงใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น “โอ้ อนิจจา อาตมาดื่มสุรา ละเมิดกฎวินัยเสียแล้ว “ ความสำนึกเสียใจและทุกข์ร้อนเอ่อประดังขึ้นมาในใจท่านโดยพร้อมเพรียง

 

ถูกบังคับให้แต่งงาน

 

  公主哭着告诉他:“吕光说,你一天不娶我,他就一天杀一个龟兹而且还要强暴我。”罗什听了这话,如雷轰顶。他已经清楚,他落入了吕光的圈套:若坚守道行,百姓必定遭殃;若保全百姓,自己坚守了几十年的道行和戒行必然被毁。  องค์หญิงจั่งทรงกรรแสง ตรัสกับท่านกุมารชีพว่า “หลวี่กวางพูดว่า หากท่านไม่แต่งงานกับข้าพเจ้า เขาก็จะฆ่าพลเมืองชายชาวกุฉาวันละคน และยังจะใช้อำนาจบังคัยข้าพเจ้าอีก” ท่านกุมารชีพได้ยินเช่นนั้น เหมือนฟ้าผ่าลงยังศีรษะ ท่านเข้าใจดีว่าได้ตกสู่หลุมพรางเสียแล้ว หากยึดมั่นรักษาศีล พสกนิกรย่อมต้องเผชิญเคราะห์ หากจะรักษาชีวิตชาวบ้าน ศีลที่ท่านยึดมั่นปฏิบัติ และวินัยที่รักษาอย่างเคร่งครัดมาหลายสิบปีนั้น ก็สูญสลายไปในที่สุด

  罗什想到了死。他想用自己的生命保全老百姓,维护出家人的名节。公主苦得更伤心了。罗什由公主而想到了母亲,想到母亲的临别赠言:“为了宏扬佛法,要忍耐,要坚强就是面临绝境也要或下去。”

            ท่านกุมารชีพคิดสละชีพตนเองเพื่อปกป้องชีวิตชาวเมือ และธำรงชื่อเสียงความสัตย์ของผู้บรรพชาไว้ องค์หญิงจั่งยิ่งกรรแสงอย่างเศร้าพระทัย ทันทีที่แลเห็นองค์หญิงก็ระลึกถึงพระมารดา หวนคิดถึงคำเตือนใจที่พระมารดาฝากไว้ “เพื่อถ่านทอดพุทธธรรมให้กว้างไกลต้องอดทน ต้องเข็มแข็งแม้จะตกอยู่ในสภาพอับจน ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้”

 

   他又想到了苏摩的话和自己的回答:“希望你能将大乘佛教经典广为传播。”“我将以此为毕生使命。”当时的情景,清晰地出现在眼前。他想:“是啊!我曾立 誓将大乘佛法传到中国去,可是,因种种原因,二十多年过去了一直未能如愿!如果我活着,来日方长,我定远赴中国弘法。活着也许比死还难,但为了弘法,我必 须活着。”  ท่านกุมารชีพ ระลึกถึงคำสอนและคำฝากฝังของท่านอาจารย์โสมะ และคำตอบรับของตัวท่านเอง “หวังว่าเจ้าจะถ่ายทอดนิกายมหายานให้กว้างไกลออกไป” “ศิษย์จะถือเป็นปณิธานอันยิ่งใหญ่ชั่วชีวิต “ เหตุการณ์ในอดีตปรากฏชัดอยู่เบื้องหน้า ท่านกุมารชีพคิดต่อไปว่า “ใช่แล้ว อาตมาเคยตั้งสัตย์ปฏิญาณจะเผยแพร่ธรรมไปถึงประเทศจีน แต่เพราะเหตุผลหลายประการ ปล่อยให้ล่วงเลยไปยี่สิบกว่าปียังไม่สมหวัง หากอาตมายังมีชีวิตอยู่ วันข้างหน้ายังมีโอกาสอีกมาก อาตมาต้องเผยแพร่ศาสนาให้ถึงประเทศจีนให้ได้ การตายง่ายกว่า การมีชีวิตอยู่ แต่เพื่อเผยแพร่พระธรรมและรักษาปณิธานอันประเสริฐอาตมาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ให้ได้”

   主意已定他劝慰了公主几句,然后让门外监视着的士兵带他去见吕光。他打断吕光无耻而又无知的问话,简短地说:“为了不让无辜者遭杀戮,我只好破戒了”。吕光顿时高兴起来,庆贺计谋得逞。

            เมื่อตกลงใจแน่วแน่แล้ว ก็เข้พูดปลอบโยนองค์หญิงครู่หนึ่ง แล้วให้ทหารที่เฝ้าสังเกตการณ์พาไปพบแม่ทัพหลวี่กวาง ท่านกุมารชีพตัดบทคำถามที่ไร้ยางอายและด้วยการศึกษาของแม่ทัพหลวี่กวาง พูดเพียงสั้นๆกับเขาว่า “เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ถูกสังหาร อาตมาจำต้องละเมิดกฎวินัย” แม่ทัพหลวี่กวาง ดีอกดีใจขึ้นมาทันทีที่กลอุบายของตนสัมฤทธิ์ผล

 

  鸠摩罗什被迫娶妻,与善良的公主同住一室,彼此相敬如宾,如同净侣。罗什仍潜心于佛典研究,每天他都为公主逐段逐句地讲解经文公主不久便通晓了许多佛典。后来他们经常在一起讨论经文,辨识教义,这成了他们“夫妇”生活的全部内容。    ท่านกุมารชีพแต่งงานเพราะถูกบังคับ ได้พำนักอยู่กับองค์หญิงจั่งผู้มีเมตตาจิตทั้งสองมีความเคารพแรงใจซึ่งกัน และกัน เหมือนคู่ชีวิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ท่านกุมารชีพสงบสติสำรวมอารมณ์และยังคงศึกษาค้นคว้าตำรับตำราพุทธศาสนา ทุกวันท่านจะอธิบายความหมายของพระธรรมให้องค์หญิงฟังเป็นวรรคเป็นตอน ไม่นานก็ทำให้องค์หญิงมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมหลากหลาย ต่อมาภายหลง ทั้งสองท่านมักจะและเปลี่ยนสนทนาธรรมแยกแยะความหมายของคำสอนเหล่านั้น ประพฤติตนตั้งมั่นอยู่ในธรรมโดยบริสุทธิ์ใจ เรื่องเหล่านี้คือสภาพ “ชีวิตคู่” ของท่านทั้งสอง

   不久,吕光便率领大军,携带鸠摩罗什回长安。吕光逼得鸠摩罗什破了戒,还不满足,行军途中又想出种种花样羞辱罗什。一天,他命士兵牵来一匹列性野马,令 罗什骑上去。罗什明知吕光为难他,仍平静地,好不容易才坐上马背。马又是踢腿,又是剧烈地腾挪身子,不一会儿便把罗什从马背上摔下来。吕光得意地大笑。罗 什从地上爬起,仍是一副安详的样子。ต่อ มาไม่นาน แม่ทัพหลวี่กวางก็นำทัพพร้อมท่านกุมารชีพกลับนครฉางอาน เขาบีบคั้นจนท่านกุมารชีพต้องละเมิดศีลไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างการเดินทัพกลับ ยังคิดกลอุบายต่างๆมากลั่นแกล้งให้ท่านกุมารชีพอับอาย วันหนึ่ง เขาเรียกทหารให้เอาม้าพยศมาตัวหนึ่งแล้วบังคับให้ท่านกุมารชีพขึ้นม้า ท่านกุมารชีพทราบดีว่าถูกกลั่นแกล้งอีก แต่ยังคงสงบอารมณ์ใช้ความพยายามไม่น้อยกว่าจะขี่ม้าตัวนี้ได้ ม้าทั้งเตะเท้าและวิ่งกระโจนอย่างรุนแรงไม่ทันไรก็เหวี่ยงสะบัดจนท่านกุมาร ชีพพลัดตกจากหลังม้า แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะเสียงดังอย่างสมอารมณ์ ส่วนท่านกุมารชีพเมื่อลุกขึ้นจากพื้นได้ก็ยังคงมีอารมณ์ที่สงบนิ่ง

   吕光说:“既然你无法驾驭马,那就骑牛吧。”他一挥手,士兵牵来一头蛮牛,瞪着一双凶狠的眼睛,两只角又长又尖,罗什仍然一句话都不说,勇敢地骑上牛 背。牛蹄踢得尘土飞扬,罗什奋力抓住缰绳,但还是被摔在地上。罗什尽管被折腾得衣衫凌乱,尘土满面,却仍心定神安,豪无愤怒和惊慌之色。เมื่อ แม่ทัพหลวี่กวางบอกว่า “ในเมื่อท่านไม่สามารถขี่ม้า งั้นก็ขี่ควายเถอะ” แม่ทัพหลวี่กวางโบกมือให้ทหารนำควายป่ามาตัวหนึ่ง ดวงตาทั้งคู่ของควายป่าจ้องมาอย่างดุดัน เขาทั้งคู่ของมันทั้งยาวและแหลม ท่านกุมารชีพขึ้นขี่บนตัวควายอย่างอาจหาญ กีบควายก็ตะกุยพื้นจนฝุ่นทรายสะบัดฟุ้ง ท่านกุมารชีพพยายามขับเคี่ยวกับมัน ออกแรงดึงเชือกคุมบังเหียนไว้ แต่ก็ยังถูกเหวี่ยงตกลงมากองกับพื้น แม้ท่านกุมารชีพจะถูกสะบัดเหวี่ยงจนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนฉีกขาด ฝุ่นละอองเต็มหน้า ท่านก็ยังมีจิตตั้งมั่นสมาธิมั่นคง ไม่มีความโกรธเคือง หรือตกใจแต่อย่างไร

   日久,吕光自觉惭愧,心想:“他如此宽容,我岂非太过分了?”他不久再捉弄罗什。这一天傍晚,部队行进到一座山脚下,吕光命令安营扎寨将士们都很疲劳 了,很快安顿下来,准备睡个好觉。罗什察看云层,恐怕夜里要下大雨;又见周围都是悬崖峭壁,如若发生山洪,后果不堪设想。他忙把情况告诉吕光,建议部队转 移,但吕光不信。 นานวันเข้า แม่ทัพหลวี่กวางรู้ลึกระอายใจขึ้น ในใจคิดว่า “ท่านกุมารชีพมีใจกว้างไม่ถือโทษเช่นนี้ ข้าพเจ้าทำเกินเลยไปแล้วมิใช่หรือ” จากนั้นเขาจึงไม่กลั่นแกล้งอะไรท่านกุมารชีพอีก เย็นวันหนึ่ง กองทหารเดินทัพมาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง แม่ทัพหลวี่กวางสั่งให้ตั้งค่ายปักกระโจม ณ ที่นั้น เหล่าทหารทุกคนเหนื่อยล้ากับการเดินทางอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานก็ตั้งค่ายเสร็จ คิดจะหลับพักให้สบายสักที ท่านกุมารชีพสังเกตดูท้องฟ้า ตระหนักว่าตกค่ำอาจจะมีลมฝนอย่างหนัก และรอบด้านก็เป็นเหวลึก หน้าผาสูงชัน หากเกิดน้ำไหลหลากลงมาจากภูเขา ผลเสียที่ตามมาอาจเกินคาด ท่านกุมารชีพรีบน้ำเรื่องนี้แจ้งแก่แม่ทัพหลวี่กวาง เสนอให้กองทหารโยกย้ายที่ใหม่ แต่แม่ทัพหลวี่กวางไม่ยอมเชื่อ

  罗什只得回到帐篷中,但不敢睡觉。果然半夜时分,点闪雷鸣,狂风呼啸,大雨哗哗地下。罗什赶紧走出帐篷,呼叫:“山洪快来啦,赶快躲避呀!”将士们正沉睡在梦中,遇此突变,豪无准备,山洪很快倾泻而下,人声、马声、乱石飞掷声、风雨声响成一片,整个营地乱成一团。    เมื่อท่านกุมารชีพกลับเข้ากระโจมที่พัก ก็ไม่กล้านอนหลับ และเป็นจริงดังที่ท่านว่าพอตกเที่ยงคืน ฟ้าแลบคะนอง เสียงลมพายุพัดแรง ฝนกระหน่ำทลงมาอย่างหนัก ท่านกุมารชีพรีบสิ่งออกจากกระโจมตะโกนบอกว่า “น้ำจะไหลหลากมาแล้ว รีบหลบหนี” เหล่าทหารกำลังนอนหลับสนิท เจอเหตุการณ์กะทันหันไม่มีเวลาเตรียมการ น้ำจากภูเขาไกลหลากลงมาอย่างรวดเร็ว เสียงป่าวตะโกนของผู้คน เสียงแผดร้องของม้า เสียงหินปะทะปลิวว่อนผสานเสียงลมฝนที่โหมซัด ค่ายทหารปั่นป่วนโกลาหลไปหมด

   积水很快便到了齐腰深。罗什边叫边把醉醺醺地昏睡着的吕光从营帐中拉出来,扶着他费力地爬上山头。洪水越来越大,扎营的山坳里,积水盈丈。洪水推去后, 吕光惊魂未定,发现有四、五千士兵来不及撤出,被淹死或被冲走。他这才从心里相信了罗什,说:“我真信服你了!”罗什却只是平淡地一笑。  น้ำที่ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็วนั้นท่วมสูงถึงเอว ท่านกุมารชีพทั้งร้องเรียกทั้งลากดึงเอาตัวแม่ทัพหลวี่กวางที่เมาหลับใหลออก จากกระโจม ช่วยประคับประคองอย่างเต็มแรง จึงพาร่างที่เมามายนั้นขึ้นบนภูเขาได้ น้ำยิ่งหลากแรง ค่ายที่ตั้งอยู่ที่ลุ่มเชิงเขาน้ำขังเป็น 10 ฟุต หลังจากน้ำลดแม่ทัพหลวี่กวางยังไม่ตื่นก็ปรากฏว่าทหาร 4-5 พันคนถอยหนีออกมาไม่ทันจมน้ำตายไปบ้างหรือถูกน้ำพัดหายไปบ้าง จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้แม่ทัพหลวี่กวางยอมสยบเชื่อถือท่านกุมารชีพด้วยใจจริง และบอกว่า “ข้าพเจ้าศรัทธาเลื่อมใสท่านจริงๆ ท่านกุมารชีพเพียงแต่อมยิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไร

   十多天后,正在行军中,有军士报告吕光,淝水之战失败,苻坚被杀,姚苌已率大军进攻长安。吕光怎么能甘愿对姚苌俯首称臣呢?前秦崩溃,何去何从?他打算 就地称王,就与鸠摩罗什商量。罗什仔细分析了形势,认为不妥,他建议吕光继续东进,在途中寻找福地,吕光于是挥军东进。  ผ่านไปสิบกว่าวัน ขณะที่กำลังเดินทัพอยู่ระหว่างทาง ก็มีทหารรายงานว่าสงครามที่เฝ่ยสุ่ยปราชัย กษัตริย์ฝูเจียนถูกปลงพระชนม์ เอี๋ยวฉังยกทัพใหญ่บุกยึดนคร
ฉางอานคนอย่างแม่ทัยหลวี่กวางหรือจะยอมก้ม ศีรษะเป็นบ่าวให้กับเอี๋ยวฉัง รัชสมัยต้นฉินก็แตกสลายไปแล้วจะไปแห่งหนตำบลดดี เมื่อใคร่ครวญดูแล้วก็คิดจะยึดสถานที่นี้สถาปนาตั้งตนเป็นใหญ่ จึงปรึกษาเรื่องนี้กับท่านกุมารชีพ ท่านวิเคราะห์สภาพแวดล้อมอย่างละเอียดคิดว่าไม่เหมาะสม จึงแนะนำให้เดินทัพขึ้นไปทางทิศตะวันออก แสวงหาสถานที่มงคลที่มีบุญวาสนาต่อกัน แม่ทัพหลวี่กวางจึงบัญชาให้ทหารมุ่งเดินไปทางตะวันออกตามที่ท่านกุมารชีพแนะนำ

  大军将要到达凉州时,罗什对吕光说:“凉州东接中原,西连西域,是东汉以来东西要道,所辖墩煌、酒泉、张掖、姑*等都是有名的重要城市。这是一个福地,将军在此立身,可图五霸之业。”吕光于是以凉州为界,自立为王,改元太安。  เมื่อทัพใหญ่เคลื่อนมาถึงเมืองเหลี่ยงโจว ท่านกุมารชีพพูดกับแม่ทัพหลวี่กวางว่า “ทางตะวันออกของเมืองเหลี่ยงโจวติดกับแผ่นดินใหญ่จีน ทิศตะวันตกติดกับแดนประจิม ตั้งแต่รัชสมัยตงฮั่นมานี้ เมืองเหลียงโจวเป็นเมืองคมนาคมที่สำคัญ รวมถึงตุนหวาง จิ่วเฉวียน จังเอี้ย และกูจั้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่มีชื่อเสียงมาตลอด สถานที่แห่งนี้เป็นมงคลภูมิหากแม่ทัพเริ่มตั้งหลักที่นี่จะสามารถสัมฤทธิ์ การอันยิ่งใหญ่ได้” ดังนั้น แม่ทัพหลวี่กวางจึงยึดเมืองเหลียงโจวนี้เป็นชัยภูมิตั้งตัวเป็นกษัตริย์ เปลี่ยนนามแผ่นดินเป็น ไท่อัน”

  第二年正月,姑*上空狂风骤起,乌云朵朵。罗什察云观日,仔细分辨飓风起始之处,只见飞沙走石,枯叶凌空,料定是不祥之兆。他将自己的看法告诉吕光。 ประมาณต้นเดือนของปีที่สอง ที่เมืองกูจั้ง วันหนึ่งท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆคลุ้มเกิดลมพายุรุนแรงกะทันหัน ท่านกุมารชีพสังเกตดูพระอาทิตย์ วิเคราะห์อย่างละเอียดถึงจุดที่เกิดลมพายุ ทรายและหินตลบคลุ้มไปทั่ว ใบไม้แห้งปลิวว่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นนิมิตบอกถึงลางร้ายอย่างแน่นอน ดังนั้น ท่านกุมารชีพจึงบอกความคิดเห็นนี้แก่กษัตริย์หลวี่กวางให้ทรงทราบ

  吕光吃了一惊。他心里清楚,他这个王位并没有坐稳,他的实力和威望不足以服众,他担心有人谋反。罗什分析到:“大王不必着急。依我看,此次谋反是不会成功的,只要加以防范,很快便可平息。”  กษัตริย์หลวีกวางตกพระทัยมาก ทรงตระหนักว่าราชบัลลังก์ของพระองค์นั้นไม่มั่นคงเสียแล้ว บุญญาธิการและชื่อเสียงยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เหล่าทหารอ่อนน้อมยอมเชื่อ ฟังและวิตกว่าจะมีผู้คิดกบฏ ท่านกุมารชีพชี้แจงว่า “พระองค์ท่านไม่ต้องกังวล ตามที่อาตมาคาดคิดการกบฏครั้งนี้ไม่สำเร็จ เพียงแต่ให้ระวังป้องกัน ทุกอย่างก็จะสงบเรียบร้อยเอง”

    

เข้าสู่อาณาจักรจีน

         

         

  果然,几天之后,吕光的部下梁谦、彭晁率部叛变,但由于吕光有所防范和准备,及时派兵镇压,没费多大力气就将叛乱平定了,并活捉了判军将领。这一事件后,吕光对罗什格外尊重和信任,罗什被迫留在凉州,当了后凉政权的国师。จริง ดังว่า ไม่กี่วันจากนั้น เหลียงบเซียนและเผิงเฉา ซึ่งเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์หลวี่กวางได้ก่อการกบฏ แต่เพราะกษัตริย์หลวี่กวางได้เตรียมป้องกันอยู่แล้ว จึงจัดส่งทหารไปปราบให้สงบได้ทันเวลา โดยไม่ต้องใข้กำลังมากก็กำราบลงได้ และกบฏก็ถูกจับเป็นด้วย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ กษัตริย์หลวีกวางเคารพเชื่อถือท่านกุมารชีพมากขึ้น ได้บังคับให้ท่านพำนักอยู่เมืองเหลียงโจวและแต่งตั้งให้เป็นราชครูในรัชสมัย ปลายเหลียง

   龙飞二年(379年),据守在张掖、临松、卢水一带的沮渠男成和他的堂弟沮渠蒙逊等人起来造反,他们把建康太守段业推为盟主,以壮声势。吕光派儿子秦州 刺史太原公吕纂率领五万大军前去讨伐。原以为段业一伙不过是乌合之众,吕纂战功显赫,定能得胜,却不料劳保纂全军覆没,只带了几个小卒狼狈而归。吕光一气 之下卧病不起,传位太子吕绍,不久便死了。หลง เฟยปีที่สอง (ปีค.ศ.397) ทหารชื่อจวีฉวีหนันเฉิง กับญาติพี่น้องชื่อจวีฉวีเหมิงชวิ่น และพรรคพวกที่ปกครองเมืองจังเอี้ย หลิงซงและหลูสุ่ย ได้ร่วมกันก่อกบฏขึ้น ทั้งหมดเห็นพ้องกันยกให้ต้วนเอี้ย ผู้ว่าราชการจังหวัดที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นประมุขเพื่อเสริมสร้างฐานอำนาจ กษัตริย์หลวี่กวางมีรับสั่งให้พระโอรสหลวี่จ่วนซึ่งเป็นข้าหลวงประจำจังหวัด ของฉินโจวยกทัพห้าหมื่นไปปราบปราม โดยคิดว่าพรรคพวกของผู้ว่าราชการจังหวัดต้วนเอี้ยนั้น เป็นเพียงนกน้อยรวมฝูงกันเท่านั้น ส่วนหลวี่จ่วนซึ่งมีความเก่งกล้าเลื่องลือในการรบ ต้องได้รับชัยชนะเป็นแน่ แต่ปรากฏว่าทหารทั้งกองทัพของหลวี่จ่วนปราชัยยับเยิน เหลือทหารกลับมาไม่กี่คน กษัตริย์หลวี่กวางทั้งกริ้วและเสียพระทัยอย่างยิ่งจนล้มป่วย จึงทรงแต่งตั้งให้พระโอรสหลวี่เซ่าขึ้นเป็นรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ ต่อมาไม่นานกษัตริย์หลวี่กวางก็สิ้นพระชนม์

  吕绍继位后,在吕纂的逼迫下自杀。绿纂自立为王,改年号为咸宁。绿纂称王之后,包括他的弟弟的几个儿子,个个心里不服,虎视耽耽,寻机下手。吕纂却浑然不知。咸宁三年(401年),吕纂被堂兄吕超杀死。吕超拥护自己的哥哥吕隆做了后凉国的新国王。   หลังจากที่พระโอรสหลวี่เซ่าขึ้นครองราชย์ไม่นาน ก็ถูกหลวี่จ่วนบีบคั้นจนทำอัตวินิบาตกรรม แล้วหลวี่จ่วนก็สถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์ เปลี่ยนรัชสมัยเป็น เสียนหนิง เมื่อขึ้นครองราชย์แล้วกลับไม่เหลียวแลใส่ใจราชการบ้านเมือง ใช่จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หมกหมุ่นแต่สุรานารี โอรสหลายองค์ของกษัตริย์หลวี่กวาง รวมทั้งอีกหลายองค์ของกษัตริย์หลวี่เซ่า ต่างก็ไม่มีใจรักภักดี ทุกองค์ต่างเฝ้ามองเสมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อคอยจ้องหาโอกาสกันตลอดเวลา แต่กษัตริย์หลวี่จ่วนไม่ทรงทราบเรื่องราวแม้แต่น้อย เสียนหนิงปีที่ 3 กษัตริย์หลวี่จ่วนถูกลูกพี่ลูกน้องนามว่าหลวี่เชาปลงพระชนม์ หลวี่เชาสนับสนุนพี่ชายของตนชื่อหลวี่หลง ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ในรัชสมัยปลายเหลียง

  虽然从吕光到吕隆,都给予罗什相当的信任,但他们都不信佛教,不支持罗什的译经弘法活动,罗什除了每天读经之外,就把大量时间用在学习汉文上,为将来在中国弘法做准备。他学会了一口流利的汉话,对汉文也能熟练掌握运用自如。 ถึงแม้ว่ากษัตริย์หลวี่กวางจนถึงกษัตริย์หลวี่หลง จะให้ความเคารพนับถือท่านกุมารชีพแต่ทุกพระองค์ไม่ทรงมีศรัทธาต่อพุทธศาสนา ไม่สนับสนุนการเผยแพร่พระธรรมหรือส่งเสริมการบำเพ็ญธรรม ท่านกุมารชีพพำนักอยู่ในเมืองเหลียงโจวเป็นเวลา 16 ปีไม่มีโอกาสเผยแพร่พระธรรมตามเจตจำนงเลย แม้จะอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้ทุกๆวัน ท่านกุมารชีพจะอ่านตำรับตำราและใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาภาษาจีน เพื่อเตรียมพื้นฐานในการเผยแพร่พระธรรมสู่ประเทศจีนในอนาคต ท่านศึกษาภาษาจีนจนพูดคุยสนทนาได้ช่ำชองแม้อักษรจีนก็สามารถใช้ได้อย่าง คล่องแคล่วดุจภาษาแม่

  姚苌知道苻坚攻打龟兹国,为的就是鸠摩罗什。他攻下长安后,曾派使者去凉州请罗什去长安。可是罗什足智多谋,对如此大智慧的人,吕光怎会拱手让人而对自己不利呢?姚苌去世后,姚兴即位,姚兴又派使者去凉州交涉,也碰了钉子,但姚兴并未就此罢休,他在等待时机。กล่าว ถึงกษัตริย์เอี๋ยวฉัง ทรงทราบข่าวที่กษัตริย์ฝูเจียนยกทัพตีแคว้นกุฉาเพื่อประสงค์ท่านกุมารชีพ ยามนี้พระองค์ได้ครองนครฉางอานแล้ว เคยมีรับสั่งให้ไปนิมนต์ท่านกุมารชีพมานครฉางอาน แต่อัจฉริยะบุคคลไหวพริบดีและมีปัญญาความสามารถเยี่ยงกุมารชีพนั้นมีหรือที่ กษัตริย์หลวี่กวางจะยอมยกให้ ซึ่จะทำให้ตนเสียเปรียบได้อย่างไร เมื่อกษัตริย์ เมื่อกษัตริย์เอี๋ยวฉังสิ้นพระชนม์ กษัตริย์เอี๋ยวซิงขึ้นครองราชย์แทนก็ส่งทูตไปเหลียงโจว เพื่อเจรจานิมนต์ท่านกุมารชีพอีกก็ถูกปฏิเสธ แต่กษัตริย์เอี๋ยวซิงไม่ทรงเลิกล้มความพยายาม ทรงรอคอยโอกาสที่จะอำนายในภายหน้า

  后秦弘始三年(401年)三月,庙庭中生出一棵连理树,逍遥园里的葱也变成了香草,大家都联想到会有高僧鸠摩罗什到达,纷纷上表启奏,要求发兵攻打后凉,迎接鸠摩罗什。    ในรัชสมัยปลายฉิน ปี ค.ศ.401 เดือน 3 ที่บริเวณศาลบูชาในพระราชตำหนักเกิดมีต้นไม้ที่มีลำต้น 2 ลำงอกมาบรรจบกันเป็นต้นเดียว และต้นหอมในอุทยานเซียวเอี๋ยว ก็กลายเป็นหญ้าหอม ทำให้ทุกคนคิดโยงไปว่าจะมีการมาเยือนของท่านกุมารชีพธรรมาจารย์ผู้มีชื่อ เสียงโด่งดัง จึงทำหนังสือกราบบังคมทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงขอให้ยกทัพโจมตีปกลายเหลียงเพื่อ อัญเชิญท่านกุมารชีพมาสู่เมืองของตน

  五月姚兴派遣陇西公姚硕德西伐凉州。后凉因王室连年自相残杀,臣下不断谋反,已经没有实力抵挡,几仗下来便被打得大败。吕隆走投无路,只得上表请降。他亲自陪同姚硕德与鸠摩罗什相见。不久,姚硕德即偕同鸠摩罗什返回长安。 เมื่อถึงเดือน 5 กษัตริย์เอี๋ยวซิงมีกระแสรับสั่งให้หลงซีกงเอี๋ยวซั่วเต๋อยกทัพไปโจมตีเหลี ยงโจวทางทิศตะวันตก เหตุการณ์ในรัชสมัยปลายเหลียงนั้น เชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนักมีการเข่นฆ่าสังหารกันตลอดมาไม่หยุดหย่อน ขุนนางก็ก่อกบฏอยู่บ่อยครั้งทำให้ไม่มีกำลังพอจะสู้รบป้องกันข้าศึก เพียงรบกันไม่ทันไรก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง กษัตริย์หลงวี่หลงหมดทางสู้ ทรงทำหนังสือยอมสวามิภักดิ์ พระองค์เสด็จมาพร้อมท่านเอี๋ยวซั่ว เข้าพบท่านกุมารชีพ ต่อมาไม่นาน ท่านเอี๋ยวชั่วเต๋อก็นำทัพกลับนครฉางอานโดยมีท่านกุมารชีพมาด้วย

  十二月二十日,鸠摩罗什到达长安。姚兴亲率文武百官出城迎接。他为鸠摩罗什接风洗尘,真诚热情地说:“大师降临,真是长安百姓之福。”鸠摩罗什在与姚兴的谈论中,发现他读过不少经书,表示赞赏。

            วันที่ 20 เดือน 12ท่านกุมารชีพเดินทางถึงนครฉางอาน กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงนำข้าราชการทั้งบุ๋นและบู๊ ออกจากเมืองมาต้อนรับการมาของท่านกุมารชีพด้วยพระองค์เองรับสั่งด้วยคามจริง ใจว่า “พระเถระมาเยือนถึงที่นี่ เป็นบุญวาสนาของบพสกนิกรชาวนาครฉางอาน” จากการสนทนาธรรมระหว่างท่านกุมารชีพกับกษัตริย์เอี๋ยวซิง ท่านกุมารชีพพบว่า กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงมีความรู้ความเข้าใจคัมภีร์ทางพุทธศาสนาไม่น้อยทีเดียว จึงได้แสดงความสรรเสริญชมเชยพระองค์

 

  
  姚兴尊鸠摩罗什为国师,将他安置在逍遥园逍遥宫居住。姚兴是十六国时期有为的君主,他目光远大,注意修学,在京城聚集了大量的儒生和佛教信徒。他深知 倡导佛教将有利于稳固他的统治,十分信任的对罗什说:“从今以后,长安的百姓就由大师多加教化了。”กษัตริย์ เอี๋ยวซิงทรงยกย่องท่านกุมารชีพเป็นราชครู นิมนต์ให้ท่านพำนักอยู่ในอุทยานเซียวเอี๋ยวในราชวังเซียวเอี๋ยว กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาของช่วงสมัยสิบหกแคว้น ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลและสนพระทัยเกี่ยวกับการศึกษา ทำให้เมืองหลวงกลายเป็นศูนย์รวมที่นักปราชญ์และพุทธศาสนิกชนทั้งหลายมาพบปะ กัน พระองค์ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมพุทธศาสนา สามารถใช้เป็นกุศโลบายชักนำที่มีประโยชน์ต่อความมั่นคงในการปกครองประเทศ พระองค์ทรงมีความเชื่อมั่นต่อท่านกุมารชีพเป็นอย่างยิ่งและตรัสว่า “นับแต่นี้ไป ขอให้พระเถระช่วยเป็นผู้สั่งสอนชี้แนะพสกนิกรของนครฉางอาน”

   鸠摩罗什开始思考如何有效地将大乘佛法在中国广泛传播的问题。他发现以往的汉译佛经不足之处甚多 ,对此,有必要重译:而其他许多重要的佛经更有待于翻译成汉文后讲解。姚兴政事处理完以后,常来逍遥园与罗什谈佛法,精研佛经,讲到玄妙处,便发出赞叹。 一次,罗什将自己想要系统地翻译佛经的宏愿告诉姚兴,姚兴当即赞同:“朕请你从现在起就开始这项工作吧。”  ท่านกุมารชีพคิดหาวิธีว่าทำอย่างไร จึงจะถ่ายทอดนิกายมหายานให้แผ่ไพศาลในประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ท่านพบว่าคัมภีร์ที่แปลเป็นภาษาจีน ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกต้องเท่าที่ควรจำเป็นต้องแปลใหม่ให้ถูกต้อง และยังมีคัมภีร์สำคัญอีกมากมายที่ต้องแปลเป็นภาษาจีนให้เสร็จสิ้นก่อนจะ เทศนาในภายหลัง กษัตริย์เอี๋ยวซิงเมื่อเสร็จจากราชกิจแล้วมักจะเสด็จมาอุทยานเซียวเอี๋ยน สนทนาธรรมกับท่านกุมารชีพเพื่อศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ต่างๆบางครั้งพูดเลยไป ถึงเรื่องอัศจรรย์ลี้ลับ ก็เห็นพ้องกันว่าเป็นเช่นนั้นจริง วันหนึ่งท่านกุมารชีพกราบทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะจัด แปลคัมภีร์ให้เป็นระบบ พระองค์ทรงเห็นชอบด้วยทันทีและกล่าวว่า “นับจากวันนี้ไป เชิญท่านเริ่มงานชิ้นนี้ได้เลย”

  在姚兴的大力支持下,一场中国历史上首次大规模的译经活动开始了。天下博学认识纷至沓来,长安成为当时长江以北佛教人才的中心。 ภายใต้พระอุปถัมภ์และการสนับสนุนเต็มที่ของกษัตริย์เอี๋ยวซิง กิจกรรมแปลคัมภีร์ก็เริ่มจัดทำเป็นระบบขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน บรรดานักปราชญ์ผู้ทรงความรู้และมีชื่อเสียง ต่างหลั่งไหลมาพบปะกันบ่อยครั้ง นครฉางอานในเวลานั้นจึงกลายเป็นศูนย์รวมของปัญญาชนทางพุทธศาสนาทางดินแดน ฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี

  姚兴见如此众多的精英会聚长安,非常高兴。他召集学问卓著的僧俗五百多人协助罗什工作。逍遥园中的噌玄堂就成了译经场所。  กษัตรยิ์เอี๋ยวซิงมีความโสมนัสปลาบปลื้มยิ่งนัก ที่นครฉางอานเป็นศูนย์รวมของผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ยังได้รับสั่งให้นิมนต์บรรพชิตและเชื้อเชิญฆราวาสทั่วไปที่มีความสามารถร่วม ห้าร้อยคนมาช่วยเหลืองานของท่านกุมารชีพ ทำให้ห้องเฉินเสวียนถังในอุทยานเซียวเอี๋ยวกลายเป็นสถานที่ ใช้ในการแปลคัมภีร์โดยเฉพาะ

  译经时,鸠摩罗什拿着梵文本用汉文讲解,与会大众对着旧译本校对,凡新译与旧译不同的地方,就提出来讨论。大家发现旧译本远不如新译义理圆通,而且新译文字简洁流畅,所以对罗什非常信服赞叹。鸠摩罗什白天在澄玄堂讲经,晚上则校对弟子们整理好的经文,常常通宵达旦。ระหว่าง ที่แปลคัมภีร์อยู่นั้น ท่านกุมารชีพจะใช้คัมภีร์ต้นฉบับสันสกฤตและอธิบายเป็นภาษาจีน เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของคัมภีร์ฉบับเดิมกับผู้ร่วมงานไม่ว่า คัมภีร์ที่แปลใหม่กับคัมภีร์ฉบับเดิมมีความผิดแผกกันที่ใด ก็จะนำมาหารือกันผลปรากฏว่าความหมายของคัมภีร์ฉบับเดิม ไม่ทัดเทียมกับคัมภีร์แปลใหม่ที่มีความหมายสมบูรณ์กว่า ภาษาที่ใช้ก็ง่ายๆ กระชับ เข้าใจง่าย ด้วยเหตุนี้ท่านกุมารชีพจึงได้รับความเคารพยกย่องในอัจฉริยภาพ กลางวันท่านกุมารชีพจะแสดงธรรมที่ห้องเฉิงเสวียนถัง พอตกเย็นท่านก็จะตรวจสอบคัมภีร์ที่ลูกศิษย์ได้แก้ไขอีกครั้งตลอดคืนถึงรุ่ง สางอยู่เสมอ

   译经之前,鸠摩罗什总要反复研究,仔细推敲,选择最准确恰当、优美简洁的词句。他非常注意发挥众人的智慧,如僧睿建议将《正法华经》中“天见人,人见 天”改译为“人天交接,两相见得”时,罗什就当即赞扬他:“你表达得很正确。”在鸠摩罗什的主持下,译经进行得既严谨又隆重,姚兴也曾亲临译场,躬与译 经。ก่อน ที่จะแปลคัมภีร์ ท่านกุมารชีพมักจะตรวจทานครั้งแล้วครั้งเล่า ชัดเกลาสำนวนอย่างละเอียด คัดเลือกถ้อยคำที่ถูกต้องเข้าใจง่ายและชัดเจนที่สุด ท่านเล็งเห็นถึงสติปัญญาความรู้ของผู้ร่วมงานทุกท่าน โดยให้แสดงความสามารถออกมาเต็มที่ เช่น พระเจิงยุ่ย เสนอประโยคของคัมภีร์ในสัทธรรมปุณฑริกสูตร (ฉบับแปลครั้งแรก) ว่า “ฟ้าเห็นคน คนเห็นฟ้า” ได้เปลี่ยนใหม่เป็น “คนและฟ้าเชื่อมร้อยได้เห็นกันและกัน” ก็ได้รับคำชมเชยจากท่านกุมารชีพในทันทีว่า”ท่านเปลได้ตรงความหมายจริงๆ” การเป็นประธานในการแปลคัมภีร์ของท่านกุมารชีพ ดำเนินไปเข้มข้นและยิ่งใหญ่ กษัตริย์เอี๋ยวซิงก็เคยเสด็จมายังสถานที่แห่งนี้และอุทิศพระองค์เข้าร่วมงาน แปลเช่นกัน

 

เริ่มแปลพระสูตร

 ลายมือของท่านกุมารชีพ ในการแปลคัมภีร์และพระสูตร

  姚兴将学习佛经和在澄玄堂所听罗什将经的体会,写成一部《通三世论》,说明善恶因果的道理,要人们多多行善。写成之后,命人将书稿送到逍遥园请罗什过目。罗什读了《通三世论》,十分欢喜,立即上书赞美。กษัตริย์ เอี๋ยวซิงทรงศึกษาคัมภีร์ด้วยพระองค์เองอย่างลึกซึ้ง จากที่ได้ทรงฟังการแสดงธรรมของท่านกุมารชีพ ณ ห้องเติ้งเสวียนถัง จึงได้ทรงนิพนธ์หนังสือขึ้นเล่มหนึ่งชื่อ “การเชื่อมโยงทะลุกันได้ของสามชาติ” ทรงแจกแจงถึงคติธรรมของเหตุและผล ดีกับชั่วและปรารถนาให้สาธุชนกระทำแต่ความดีให้มาก เมื่อนิพนธ์เสร็จก็รับสั่งให้นำบทความนี้ไปยังอุทยานเซียวเอี๋ยนให้ท่าน กุมารชีพอ่านดูหลังจากอ่านเสร็จท่านกุมารชีพรู้สึกชื่นชมในพระปรีชาของ กษัตริย์เอี๋ยวซิง จึงได้กราบทูลสดุดีต่อพระองค์

   鸠摩罗什的译经弘法活动,盛况空前。参译者不断增加,到翻译《法华经》时,竟有两千多人。而经常追随罗什的弟子有三千。人们把鸠摩罗什门下最优秀的弟子 誉为“什门四圣”、“八俊”、“十哲”等等,长安逍遥园则成了中国北方学术地位最高的佛学翻译和研究机构。当时,后秦内上自王公贵族,下至黎民百姓,无不 信佛,佛法昌盛到了极点。ภารกิจ ด้านการแปลคัมภีร์เผยแพร่ธรรมเช่นที่ท่านกุมารชีพกระทำนั้น หาเคยมีมาก่อนไม่ โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมงานแปลคัมภีร์นับวันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้น ช่วงเวลาที่แปลคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรอยู่นั้น มีผู้เข้าร่วมแปลกว่าสองพันคน ส่วนลูกศิษย์ที่ติดตามท่านกุมารชีพก็ร่วมสามพันกว่าคน ผู้คนสดุดียกย่องศิษย์ที่โดดเด่นเป็นเลิศของท่านกุมารชีพเป็น “สี่อริยะแห่งเสอ” “แปดอัจฉริยะ” “สิบปรัชญาเมธี” ฯลฯ บัดนี้อุทยานเซียวเอี๋ยวของนครฉางอาน จึงเป็นแหล่งวิทยาการชั้นเลิศทางตอนเหนือของจีนในด้านการแปลพุทธศาสตร์ ในเวลานั้นเป็นรัชสมัยปลายฉิน ภายในพระราชวังนับแต่ราชนิกูลขุนนางผู้ใหญ่จนถึงทวยราษฎร์ล้วนนับถือพุทธ ศาสนา นับว่าพุทธศาสนาในยุคนั้นเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด

  弟子们对鸠摩罗什无比崇敬,唯独不能明白老师为什么会有妻室。一次,译经结束时,一位弟子忍不住问道:“老师的学问,像大海一样深;老师的道德,像天一样高。弟子只是不明白,出家人理当辞俗避世,斩断六情,老师却为何娶有妻室,身处尘俗呢?”   สานุศิษย์ ทั้งหลายล้วนเคารพท่านกุมารชีพมาก ว่าเป็นเลิศหาผู้ใดปาน แต่มีความกังขาเพียงเรื่องเดียวคือ เหตุใดอาจารย์จึงต้องมีครอบครัว ครั้งหนึ่งหลังเสร็จสิ้นการแปลคัมภีร์ศิษย์คนหนึ่งอดรนทนไม่ได้ จึงถามออกมาว่า”ความรู้ของอาจารย์ลึกล้ำดุจมหรรณพ ศีลธรรมจรรยาของอาจารย์กว้างใหญ่ไพศาลดุจห้วงนภา แต่ศิษย์ไม่เข้าใจว่าผู้ออกบวชจำต้องถอนตัวจากโลก หลีกเร้นโลกียวัตร ตัดขาดอารมณ์ทั้งปวง เหตุใดท่านยังมีภรรยาและใช้ชีวิตเยี่ยงปุถุชนทั่วไป”

   鸠摩罗什原原本本地向弟子们叙述了娶妻的前因后果,弟子们这才明白了老师的苦楚。原来老师为了弘扬佛法,为了把大乘法传播到中国来,才不得不忍辱负重 啊!对于个别心存妄念之人,罗什则施展早年学的吞针术,将一碗缝衣针和水吞下,然后吸一口气,将吞下的针悉数由皮肤标出,说:“吞得针,娶得亲。”吓得那 些人目瞪口呆。从此无人敢放肆妄为。  ท่าน กุมารชีพจึงเล่าถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดให้ศิษย์ทุกคนฟัง เหล่าศิษย์จึงเข้าใจถึงความระทมขมขื่นลึกๆของอาจารย์ เพื่อจะเผยแพร่พุทธธรรมให้กว้างไกลและมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดนิกายมหายานให้ ถึงประเทศจีน จึงจำใจต้องทนอัปยศเพื่อสานต่อภารกิจนี้ให้ลุล่วง สำหรับผู้ที่คิดในเชิงอกุศลนั้น ท่านกุมารชีพได้แสดงวิชาที่ร่ำเรียนมาเมื่อครั้งเยาว์วัยให้เห็นคือวิชากลืน เข็มเข้าท้อง โดยกลืนเข็มหนึ่งชามพร้อมดื่มน้ำตามลงด้วย เพียงอึดใจเดียวก็คายเข็มที่กลืนลงไปออกทางผิวหนัง เท่ากับจำนวนที่กลืนเข้าไป ท่านกุมารชีพพูดว่า “สามารถกลืนเข็มลงไปได้ ก็สามารถแต่งงานได้” ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง นับจากนั้นก็ไม่มีใครกล่าววาจาจาบจ้วงลบหลู่ในทางอกุศลอีก

   龙光地方有位学问很高、著作也很多的和尚慕名前来向鸠摩罗什请教。他和罗什谈论大乘的空论,认为空论太玄了。罗什告诉他,空论是大乘的精髓,他已准备有 系统地翻译。他告诉这位和尚,继《大品》后,他还将翻译《大智度论》、《中论》、《百论》、《十二门论》。和尚敬佩地点头。 ที่ ตำบลหลงกวางมีพระสงฆ์รูปหนึ่งมีความรู้สูง มีผลงานการประพันธ์มากมายได้เดินทางมาขอคำชี้แนะจากท่านกุมารชีพ เพราะได้ยินชื่อเสียงและเสื่อมใสศรัทธามานานทั้งสองท่านได้สนทนาถึงความหมาย ของคำว่า “ว่างเปล่า” ของนิกายมหายาน ต่างยอมรับว่า คำว่า “ว่างเปล่า” นั้นมีความหมายลึกซึ้งจริงๆ ท่านกุมารชีพบอกกับพระสงฆ์รูปนั้นว่า “ว่างเปล่า” นี้เป็นสารัตถะของนิกายมหายาน ท่านเองได้เตรียมจะจัดแปลอย่างเป็นระบบพร้อมทั้งบอกกับพระรูปนี้ว่า เมื่อแปลคัมภีร์ “มหาปรัชญาปารมิตาสูตร”สำเร็จแล้วก็จะแปล “มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์” “มาธยมิกศาสตร์” “ศตศาสตร์” “ทวาทศนิกายศาสตร์” พระสงฆ์รูปนั้นได้ฟังก็ได้แต่พยักหน้าด้วนความนบนอบ

  庐山的慧远法师在学界及政界均有很大影响。他看了鸠摩罗什的汉译佛经,赞叹不已,主动写信向罗什问好,赞美他的渊博学识和崇高精神。罗什与他书信来往,互表敬意,以慧远为中心的教团也日渐趋向大乘佛教了。ธร รมจารย์ฮุ่ยเหวี่ยนแห่งหลูซาน มีชื่อเสียงกิตติศัพท์ในวงการศึกษาและวงการเมืองมาก ท่านธรรมาจารย์ได้อ่านบทแปลคัมภีร์เป็นภาษาจีนของท่านกุมารชีพแล้วรู้สึก ชื่นชมเป็นที่ยิ่ง จึงเขียนจดหมายมาไต่ถามทุกข์สุข สรรเสริญยกย่องท่านกุมารชีพที่มีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวาง มีจิตวิญญาณการทำงานสูงส่ง ท่านกุมารชีพและธรรมาจารย์ฮุ่ยเหวียนมีจดหมายติดต่อกัน จิตบังเกิดความปิติเลื่อมใสต่อกัน แม้กระทั่งศูนย์สอนศาสนาของธรรมาจารย์ฮุ่ยเหวียนก็ค่อยๆหันมาศรัทธาเลื่อมใส นิกายมหายานมากขึ้น

   转眼间,鸠摩罗什来长安已经七八年了。那时,他正在全力翻译《法华经》。一天,他对几位最喜爱的弟子表露心境:“我想译完《法华经》后,回天竺去。”弟 子们盛情挽留他。姚兴得知后,也忙到逍遥园探视。罗什考虑到中国译经事业的重任一时还得由他来担当,遂打消了去天竺的念头。他对姚兴说:“请陛下放心,我 要在有生之年译出更多的佛典。” ชั่วพริบตาท่านกุมารชีพก็พำนักอยู่นครฉางอานเป็นเวลานานถึง 7-8 ปี ในระหว่างนั้นท่านทุ่มเทกายใจแปลสัทธรรมปุณฑริกสูตรอย่างเต็มที่ วันหนึ่งกุมารชีพได้สนทนากับศิษย์ใกล้ชิดถึงความในใจว่า “เมื่อเปลสัทธรรมปุณฑริกสูตรเสร็จแล้วจะกลับชมพูทวี” เหล่าสานุศิษย์เหนี่ยวรั้งไว้ด้วยไมตรีไม่อยากให้จากไป กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงทราบเรื่องนี้ก็รีบเสด็จมาเยี่ยมเยียนที่อุทยานเซียว เอี๋ยวเช่นกัน ท่านกุมารชีพคำนึงถึงเรื่องแปลคัมภีร์ที่เประเทศจีนในยามนั้นว่ายังเป็น ภารกิจสำคัญที่ท่านต้องกระทำ จึงละความคิดที่จะไปชมพูทวีปไว้ก่อน ท่านกราบทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงว่า “ขอให้พระองค์ทรงวางพระทัย ข้าพเจ้าจะพยายามแปลคัมภีร์ให้มากที่สุดตราบที่ยังมีชีวิตอยู่”

   姚兴笃信佛教,一心要为鸠摩罗什留下法种。他邀请罗什进宫观赏荷花,先试探性地跟他讲法统继承的事,见罗什没有领会他的意思,便直截了当地说:“我的意 思是说,法师如能留下一二麟儿,法师的盖世学识便可源源不断,传诸久远。我现在要挑选十名歌伎服侍你。”鸠摩罗什急忙推辞。  กษัตริย์ เอี๋ยวซิงมีความความศรัทธาเชื่อมั่นต่อพุทธศาสนามาก มีพระประสงค์จะให้ท่านกุมารชีพสืบทอด ดังนั้นพระองค์จึงนิมนต์ท่านกุมารชีพเข้าวังมาชมดอกบัว เริ่มแรกพระองค์ทรงลองทาบทามดูก่อน จึงตรัสถือเรื่องทายาทสืบสกุลตามประเพณี ครั้นเห็นท่านกุมารชีพไม่เข้าใจความหมายที่พระองค์ทรงรับสั่ง จึงตรัสอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความหมายของข้าพเจ้าก็คือ หากท่านกุมารชีพมีทายาทสัก 1-2 คน ความรู้อันเป็นเลิศในปฐพีของท่าน ก็จะมีคนสืบทอดต่อไปชั่วกาลนาน ข้าพเจ้าได้คัดเลือกนางกำนัลสิบคนไว้คอยปรนิบัติรับใช้ท่านแล้ว” ท่านกุมารชีพปฏิเสธทันที

  
  姚兴不等鸠摩罗什把话说完,就将这件事决定下来。罗什被迫搬进新的府邸,又被迫接受了姚兴给他的十名歌伎。姚兴希望罗什传下优秀的后代,因此歌伎们个 个貌若天仙,善解人意,而又多才多艺。姚兴为他们提供丰富的食物和全部生活用品。 กษัตริย์เอี๋ยวซิงไม่ทรงรอให้ท่านกุมารชีพพูดจบ ก็ตัดสินพระทัยให้ดำเนินตามที่รับสั่ง ท่านกุมารชีพถูกบังคับให้ย้ายไปพำนักที่ตำหนักแห่งใหม่ พร้อมให้ยอมรับสิบนางกำนัลมาอยู่ด้วย กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงตั้งความปรารถนาให้ท่านกุมารชีพมีทายาทที่ดีเยี่ยม มีความรู้ ความสามารถหลากหลาย กษัตริย์เอี่ยวซิงทรางเป็นองค์อุปถัมภ์  พระราชทานข้าวปลาอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบถ้วน

  罗什王命难违。面对这十位聪明美丽的女子,他决定教化她们,让她们屏弃俗念,皈依佛法,以免尘事生活的烦恼。于是,他每天在逍遥园讲经之后,便回到府第,向十位女子讲述佛经故事,灌输佛教思想。慢慢地,这十位女子自动改服素装,修习佛法。  ท่าน กุมารชีพไม่อาจฝืนพระบัญชาของกษัตริย์เอี๋ยวซิงได้ เมื่อเผชิญหน้ากับนางกำนัลที่ฉลาดและงดงาม ท่านกุมารชีพจึงตัดสินใจที่จะกล่อมเกลานางทั้งหลายให้มีศีลธรรมยกระดับจินใจ จากปุถุชนผู้มีกิเลสหันมาบำเพ็ญพุทธธรรม เมื่อหลีกเลี่ยงซึ่วิตอันทุกข์ทรมานทางโลก ดังนั้นทุกวันเมื่อกลับจากแสดงธรรมที่อุทยานเซียวเอี๋ยวแล้ว ก็จะไปยังตำหนักแห่งใหม่ เล่านิทานและสาธกเรื่องราวต่างๆทางพุทธศาสนาให้นางกำนัลทั้งสิบฟัง เพื่อให้เกิดพุทธิปัญญา ต่อมาไม่นานนางทั้งสิบก็ได้เปลี่ยนแปลงตนเองโดยนุ่งห่มอาภรณ์เรียบๆไม่ฉูด ฉาด เรื่องฝึกฝนบำเพ็ญพุทธธรรมโดยสมัครใจ

   有一天,罗什跟她们讲最初的比丘尼是如何产生的:佛陀的姨母见佛陀不收女弟子,三次拒绝她们的请求,便与同族中五百多女子毅然各自剃去头发,披起袈裟, 后来,阿难尊者一再为她们说情,佛陀才允许他们的请求,开放了女子加入僧团的先例。十名女子听了这个故事,非常感动。在罗什的感化和调教下,他们成为罗什 门下忠心耿耿的弟子。 อยู่ มาวันหนึ่ง ท่านกุมารชีพได้เล่าถึงความเป็นมาที่มีภิกษุณีเกิดขึ้นครั้งแรกในพุทธศาสนา กล่าวคือพระมาตุจฉาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกปฏิเสธจากพระองค์ถึงสามค รั้ง ไม่อนุญาตให้สตรีเข้าบรรพชาในพุทธศาสนา ดังนั้นนางพร้อมด้วยกลุ่มสตรีประมาณห้าร้อยกว่าคน จึงตัดสินใจปลงผม นุ่งห่มจีวร ต่อมาพระอานนท์ได้เข้าเจรจาขอร้องแทนนางทั้งหลาย จนได้รับการอนุโลมจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนุญาตรับเข้าบรรพชา ครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มแห่งการรับสตรีให้เข้าบรรพชาในพุทธศาสนา นางกำนัลทั้งสิบได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น รู้ลึกซาบซึ้งภายใต้การสั่งสอนอบรมของท่านกุมารชีพ ทุกคนได้เปลี่ยนความคิดเห็นเดิม กลายเป็นศิษย์ที่มีจิตใจชื่อสัตย์ของสำนักหลัวเสอ

   鸠摩罗什已经译完了《法华经》,正在翻译《诚实论》。此时,他开始构思撰写《实相论》,要将几十年来研究佛学的心得融铸其中,传播后世,发扬光大,他把 《实相论》的撰写放在每天的译经工作之后,经过一年多的时间,方才写成;又经过两年的修改增删,才算定稿。此书应是鸠摩罗什一辈子研究佛学的结晶,惜已亡 佚不存。 เมื่อกุมารชีพได้แปลคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรเสร็จสิ้น และกำลังแปลคัมภีร์สัตยสิทธิศาสตร์อยู่นั้น ท่านก็คิดจะประพันธ์เรื่อง สัตยลักษณศาสตร์ โดยคิดที่จะเขียนบรรยายข้อคิดที่ผ่านมาตลอดหลายสิบปีในการศึกษาค้นคว้าพุทธ ธรรม เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้ ท่านกุมารชีพจะเขียนบทประพันธ์ สัตยลักษณศาสตร์นี้ หลังเสร็จจากงานแปลประจำวัน ได้ใช้เวลาในการประพันธ์ราวปีกว่าและใช้เวลาขัดเกลาอีก 2 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานตลอดชีวิตเกี่ยวกับการค้นคว้าพุทธธรรมของ ท่านกุมารชีพ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่หนังเล่มนี้ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย

  罗什住入姚兴为他新造的宅第后,认为自己业障太重,每次译经前,都要与弟子一起诵念“南无阿弥陀佛”,并对大众说:“我虽身落尘俗,我所说的法却是正确的。就如污泥中生着清香美丽的莲花,希望各位只采莲花,不要取污泥。”可谓用心良苦。    หลัง จากท่านกุมารชีพเข้าพำนักอยู่ในตำหนักใหม่ที่กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงสร้างให้ ท่านถือว่าเป็นกรรมอันใหญ่หลวงของท่านที่กีดขวางหนทางบำเพ็ญเพียร ดังนั้นทุกๆครั้งก่อนที่จะเริ่มแปลคัมภีร์ ท่านก็จะสวดมนต์ “นโมอมิตาภพุทธ” พร้อมๆกับศิษย์เสมอแล้วก็ประกาศให้ทุกคนทราบว่า “แม้ตัวของอาตมาใช้ชีวิตอยู่ทางโลก แต่พระธรรมที่เทศนานั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้เสมือนดอกบัวอันงดงามหอมกรุ่น งอกงามท่ามกลางโคลนตมหวังให้ทุกท่านเพียงเด็ดดอกบัว อย่าได้แปดเปื้อนโคลนตมโสโครก” นับได้ว่าท่านใช้คำสอน ที่ให้กำลังใจและมีเจตนาให้ข้อคิดอันลึกซึ้ง

  弘始十一年(1413年)八月十九日下午,鸠摩罗什正在校正《成实论》,突然感到心跳加快,身体不适。他用手紧按着胸口,坚持到看完最后一个字,才呼喊弟子。 รัชสมัยหงสื่อปี่ที่ 11 (ปี ค.ศ.413) เวลาบ่ายของวันที่ 19 เดือน 8 ขณะที่ท่านกุมารชีพกำลังตรวจสอบคัมภีร์สัตยสิทธิอยู่นั้น รู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ ร่างกายไม่สบายมาก ท่านเอามือกดทาบที่หน้าอกระงับความเจ็บปวด มีมานะอ่านตรวจทานคัมภีร์จนจบบทสุดท้ายจึงเรียกศิษย์เข้ามาช่วย

           

ละสังขาร

 

เจดีย์บรรจุอัฐิพระกุมารชีพ

 

 

  弟子们忙奔了过来,把师父扶到床上。他们一刻不停地为师父念咒,祈求佛陀延长师父的寿命。谁知到了第二天,鸠摩罗什的病情更加严重,他知道自己的生命走到了尽头,忽然睁开眼睛,挣扎着坐起来,向大家告别。          ศิษย์ทุกคนรีบรุดเข้ามาอย่างเร่งด่วน พยุงท่านกุมารชีพขึ้นนอนบนเตียง ศิษย์ทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่างอธิษฐานให้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเมตตาช่วยชีวิตของอาจารย์ แต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น อาการเจ็บป่วยของท่านกุมารชีพกลับยิ่งรุนแรง ท่านกุมารชีพตระหนักดีว่าชีวิตของท่านได้มาถึงจุดสุดท้ายแล้ว ทันใดนั้นท่านก็ลืมตาขึ้นพยายามทรงตัวขึ้นมาเพื่อล่ำลาทุกคน

  一位弟子忙上前扶住师父,让他靠在自己的身上。众弟子肃立在鸠摩罗什周围听着师父临终遗言。鸠摩罗什喘息着说:“罗什所译经纶,三百多卷,大部分是意译,保留了经纶的本意,希望将来可流传后世,发扬光大......。”ศิษย์ คนหนึ่งรีบเข้ามาประคองท่านอาจารย์กุมารชีพ แล้วให้เอนพิงบนตัวท่านสานุศิษย์ทั้งหลายยืนสงบเสงี่ยมข้างกายท่านอาจารย์ กุมารชีพ ฟังคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายที่ใกล้มอดดับของอาจารย์ ท่านกุมารชีพพูดด้วยเสียงหอบว่า “คัมภีร์สามร้อยกว่าเล่มที่ได้แปลไว้นั้นส่วนมากแปลตามความหมายเดิม เพื่อธำรงไว้ซึ่งเนื้อหาที่แท้จริงของบทคัมภีร์หวังว่าจะสามารถสืบทอดไปยัง อนุชนรุ่นหลัง มีโอกาสเผยแพร่ให้รุ่งเรืองไพศาล”

 

 

  鸠摩罗什对弟子说了好些话,他的声音越来越微弱。他最后说:“罗什一生所译的经纶,如果没有错误的话,罗什火化之后,舌根不会烧焦烧烂!”弟子们含着眼泪,让鸠摩罗什躺下。在生命的最后时刻,鸠摩罗什的嘴唇还在微微颤动,似乎在喃喃地念着经文。   ท่าน กุมารชีพได้สนทนากับศิษย์ครู่หนึ่ง เสียงของท่านแผ่วลงทีละน้อย “พระคัมภีร์ที่แปลไว้ตลอดชีวิตของอาตมานั้น” มิได้มีข้อผิดพลาดอันใด หลังพิธีฌาปนกิจแล้วสิ้นของอาตมาจะไม่ถูกเผาไหม้เสื่อมสลาย”ศิษย์ทุกคนต่าง น้ำตาคลอ พยุงอาจารย์ให้เอนกายลง ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ริมฝีปากของท่านอาจารย์กุมารชีพยังคงสั่นเครือเล็กน้อย ราวกับว่าท่านยังพึมพำสวดมนต์อยู่

  长公主与十位女弟子也满怀悲伤与崇敬,步向榻前,为鸠摩罗什助念佛号。鸠摩罗什在弟子们的哭泣和念佛声中,慢慢地合上了眼睛。他的面容是那样安详、宁静;他那样伟大的灵知觉性,正向不生不灭的涅?境界而去。องค์ หญิงจั่งและศิษย์หญิงทั้งสิบยืนอยู่หน้าเตียง ต่างช่วยกันอธิษฐานด้วยความเคารพและโศกเศร้าอาดูร ท่านกุมารชีพค่อยๆหลับตาลง ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้และเสียงสวดมนต์ของศิษย์ทั้งหลาย ใบหน้าของท่านช่างสงบสุข โปร่งสบายอะไรเช่นนี้ จิตที่สูงส่งประเสริฐเลิศล้ำ กำลังมุ่งสู่นิพพานสถานอันอมตะไร้ซึ่งการเกิดและการดับสูญ

  一代伟大的译经家鸠摩罗什与世长辞,终年七十岁。鸠摩罗什的逝世,出乎人们的意料之外,从他感到身体不适到圆寂,竟不到一昼夜!这都是因为他日夜不停地讲经译经,疲劳过度,积劳成疾所致呀!鸠摩罗什的遗体火化后,舌根却没有焦烂,就像活着时一样红润。ท่าน กุมารชีพ นักแปลผู้ยิ่งใหญ่ละสังขารจากโลกนี้ไปชั่วกาลนานในวัย 70 พรรษาการจากไปของท่านเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายไม่คาดคิด กล่าวคือ เริ่มแต่ท่านรู้สึกไม่สบายจนถึงมรณภาพกินเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้เนื่องเพราะท่านตรากตรำแสดงธรรมและแปลคัมภีร์ สั่งสมความเหน็ดเหนื่อยมากเกินไปจนแปรเป็นโรคภัยไข้เจ็บ สังขารของท่านหลังฌาปณกิจแล้ว ปรากฏว่าลิ้นของท่านยังเป็นสีแดงสดเหมือนขณะยังมีชีวิตอยู่ไม่ถูกเผาจนไหม้ เกรียมสูญสลายแต่อย่างใด

  前来送行的弟子及长安百姓不计其数。大家见此,苦得更悲痛了。僧肇擦着满脸泪水,朗诵他流泪撰写的祭文《鸠摩罗什法师诔》。然后,弟子们小心地收起灵骨,恭迎回逍遥园。สานุศิษย์ และชาวเมืองฉางอานที่มาปลงศพในครั้งนี้มากมายเหลือคณานับ ทุกคนเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งสลดใจมากขึ้น พระเจิงจ้าวน้ำตานองหน้าขณะอ่านบทความไว้อาลัยสดุดีต่ออาจารย์กุมารชีพ คือ “บทสดุดีความดีความชอบของท่านกุมารชีพ” เสร็จแล้วลูกศิษย์ทั้งหลายก็เก็บสรีระธาตุของท่านอย่างระมัดระวัง นำกลับไปยังอุทยานเซียวเอี๋ยวด้วยความเคารพ

   鸠摩罗什在长安二十年,译出佛经七十四部三百八十四卷,其中重要的有《妙法莲华经》、《阿弥陀经》、《十住毗婆沙论》、《中论》、《百论》,《十二门 论》、《金刚般若波罗蜜经》、《梵网经》、《摩诃般若波罗蜜经》、《成实论》、《弥勒成佛经》、《坐禅三昧经》、《维摩诘所说经》、《大智度论》等。ท่าน กุมารชีพพำนักอยู่นครฉางอานเป็นเวลา 12 ปี ได้แปลพระคัมภีร์รวม 714 หมวด 384 เล่ม มีพระสูตรสำคัญ อาทิ “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” “อมิตยุสูตร” “ทศภูมิวิภาษาสูตร” “มาธยมิกศาสตร์” “ศตศาสตร์” “ทวาทศะนิกายศาสตร์” “วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร” “พรหมชาลสูตร” “มหาปรัชญาปารมิตาสูตร” “สัตยสิทธิศาสตร์” “ไมตรียพุทธ-สัมปทาสูตร” สมาธินสัชชาสูตร” “วิมลกีรตินิทเทศสูตร” และ “มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์”

  在鸠摩罗什所译的佛经中,论部多于经部。他的汉译佛经,为中国的佛教哲学奠定了坚实的理论基础。在鸠摩罗什到长安之前,中国主要奉行小乘佛教,对大乘佛教知之甚少,是鸠摩罗什把大乘佛教传播到中国,使之在中国发扬光大。 ใน งานแปลพระสูตรทั้งหลายของท่านกุมารชีพนั้น ภาคที่ว่าด้วยศาสตร์จะมีมากกว่าพระสูตร พระสูตรที่แปลเป็นภาษาจีนของท่านได้วางรากฐานอันเข็งแกร่งให้กับพุทธปรัชญา ในประเทศจีน เพราะก่อนที่ท่านกุมารชีพจะมาอยู่นครฉางอาน ประเทศจีนยังนับถือนิกายหินยานเป็นหลัก ส่วนนิกายมหายานเป็นที่รู้จักน้อยมาก นิกายมหายานถ่ายทอดถึงประเทศจีนได้ก็เพราะท่านกุมารชีพเป็นผู้เผยแพร่ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศจีน

  
  鸠摩罗什门下人才辈出,最杰出的被称为“关中四圣”或“什门四杰”,也有被称为“八俊”或“十哲”的他们是:道生、僧肇、道融、僧?、道恒、慧观、慧 严、僧影、昙影、僧契、道标。他们后来各自教化一方,著作也很丰富,如道生的《二谛论》、《法华经疏》,僧肇的《肇论》等。 สำนักของท่านกุมารชีพ มีปัญญาชนที่มีความรู้ ความสามารถเป็นเลิศจนเป็นที่เลื่องลือได้รับการยกย่องเป็น “สี่สุดยอดแห่งสำนัก” หรือ “สี่อัจฉริยะแห่งสำนักเสอ” รวมทั้งได้รับการยกย่องเป็น “แปดสง่างามล้ำเลิศ” หรือสิบปรัชญาเมธี” ท่านเหล่านี้ คือ เต้าเซิง เจิงจ้าว เต้าหยง เจิงยุ่ย เต้าเหิง ฮุ่ยกวาน ฮุยเอี๋ยน เจิงอิ่ง เซียนอิ่ง เจิงซี่ และเต้าเปี่ยว ต่อมาภายหลัง แต่ละท่านได้นำคำสอนออกเผยแพร่ไปทั่วทุกแห่งหน บทประพันธ์ก็มีมากมาย เช่น บทประพันธ์ “ทวิสัตยศาสตร์” “สัทธรรมปุณฑรีกสูตรฎีกา” ของเต้าเซิง “อภิเษกศาสตร์” ของเจิงจ้าวเป็นต้น

  鸠摩罗什把一生都献给了佛教事业。他自七岁随母出家后,既游学各国,孜孜不倦地学习佛法,传播佛学。在长安的十二年中,致力于汉译佛经的伟大工程,为中土培养了大批的佛教人才,为佛教在中国的发展,作出了巨大贡献;中国的佛教思想,也因此而源远流长。ตลอด ชีวิตของท่านกุมารชีพ มีปณิธานที่จะอุทิศกำลังกายใจและสติปัญญาเพื่อภารกิจแห่งพุทธศาสนา เมื่ออายุ 7 ปี ก็ติดตามพระมารดาออกบวช และจารึกไปยังแว่นแคว้นต่างๆ มุ่งมั่นไม่ท้อถอยในการศึกษาพระคัมภีร์และเผยแพร่พุทธศาสนา ช่วงเวลา 12 ปีที่อยู่นครฉางอาน ก็ได้ทุ่มเทแรงกายมหาศาลในการแปลคัมภีร์ของพุทธศาสนา และฟูมฟักส่งเสริมปัญญาชนมากมายให้แก่ประเทศจีน เพื่อให้พุทธศาสนาได้แผ่ขยายรุ่งเรืองต่อไป ในประเทศจีน ท่านได้อุทิศผลงานอันล้ำค่า คือการสร้างทัศนคติเกี่ยวกับพุทธศาสนานิกายมหายานให้เกิดศรัทธาขึ้นในประเทศ จีน และยั่งยืนสถาวรสืบมา

 

         

        

           

          

           

          

          

           

          

 

 

 

           

 

ดาวน์โหลดตัวอักษร (ฟ้อนต์) ทิเบตทั้ง ๓ แบบ เพื่อความสมบูรณ์ในการชมเว็บ

actisan.ttf

adtibet.ttf

atibet.ttf


uptime alert service

website monitor

View My Stats